พ่อแม่น้ำตานอง รับศพน้องไทตัลวัย 2 ขวบ เหยื่อโจรเหี้ยมยิงกราดชิงทองกลับไปทำพิธีที่ลพบุรี ขณะที่ตำรวจ-ร้านทองทั่วภาคกลางตื่นตัว ป้องกันมิจฉาชีพ ชี้ "ภาพวงจรปิด" จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการมัดตัวคนร้าย
ช่วงบ่ายวันที่ 10 ม.ค. ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี นางวิไลวรรณ ยังรอด ผู้เป็นแม่ และพ่อของ ด.ช.ภานุวิทธญ์ วงศ์อยู่ หรือ น้องไทตัล อายุ 2 ขวบ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้านบุกชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้าที่ จ.ลพบุรี ได้นำเอกสารจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เดินทางมาขอรับศลูกชายนำกลับไปบำเพ็ญกุศล
ทั้งนี้ ทั้งสองได้มากันเพียงลำพัง โดยผู้เป็นพ่อได้อุ้มร่างลูกน้อยซึ่งถูกห่อด้วยผ้าขาวไว้แนบอก ส่วนแม่ถือธูปเดินน้ำหน้าไปด้วยน้ำตานองหน้า เดินไปขึ้นรถมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางกลับบ้านที่ลพบุรีเพื่อจัดพิธีศพให้กับลูกชายโดยไม่ได้กล่าวอะไร ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ไปรอถ่ายภาพทำข่าวจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ที่ จ.ชัยนาท พ.ต.ต.อภินัทธ์ ใจวัฒโน สวป.สภ.เมืองชัยนาท ได้นำสายตรวจออกปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการระดมกำลังปล่อยแถวที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองชัยนาท เพื่อเป็นการแสดงกำลังป้องปรามมิจฉาชีพ และได้เข้าประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากร้านทองในห้างสรรพสินค้า
...
โดยได้เน้นย้ำเรื่องของระบบกล้องวงจรปิดที่ควรจะต้องใช้งานได้ทุกตัว ซึ่งในวันนี้ยังพบว่ามีกล้องวงจรปิดบางตัวไม่สามารถใช้งานได้ในบางร้าน จึงให้เร่งทำการแก้ไขโดยด่วน เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการติดตามตัวคนร้าย
พร้อมกันนี้ได้ให้คำแนะนำเบื้องต้น หากต้องเผชิญกับเหตุการณ์จี้ปล้น โดยให้คำนึงถึงการเอาชีวิตรอดเป็นอันดับแรก โดยให้จดจำลักษณะสำคัญของคนร้าย เช่น การเดิน สำเนียงการพูด ความสูง สีผิว ทรงผม และลักษณะเด่นอื่นๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดตามจับกุมคนร้ายของเจ้าหน้าที่นั่นเอง โดยเน้นย้ำอย่าพยายามต่อสู้ขัดขืนคนร้ายด้วยตนเอง เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้.