ตร.รวบหนุ่มลพบุรี ลอบขนกัญชาเกรดเอ ซุกรถขนปุ๋ยคอก ยึดของกลางได้กว่า 1 ตัน รับทำมาหลายครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่น เผยค้นปนปุ๋ยคอกตบตาตำรวจ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค.63 ที่สถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น (สทล.2 กก.4 บก.ทล.) พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ ผกก.4 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ต.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. แถลงผลการจับกุม นายรักชาติ แย้มเรือง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 ม.1 ต.ชัยบาดาล อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 26 ถุง น้ำหนักรวม 1,030 กก. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีดำ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ก-6716 ปทุมธานี และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขอนแก่นจับกุมตัวได้ ขณะขับรถย้อนศรหลบหนีการตรวจค้นของตำรวจทางหลวง ที่ตั้งจุดตรวจที่ กม.360-361 ถ.มิตรภาพ ฝั่งขาเข้า ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.อภิชาต โพธิ์จันทร์ ผกก.4 บก.ทล. กล่าวว่า ของกลางกัญชาทั้งหมดนั้น หน้าถุงจะมีอักษรตัว A ซึ่งแสดงถึงการเป็นกัญชาเกรดเอที่เป็นที่รู้กันของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ของกลางกัญชาทั้งหมดนั้นรับมาจากนายตั้ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยนัดรับมอบสินค้ากันที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยนายตั้มได้สั่งการให้ผู้ต้องหาขับรถมาตามจุดนัดหมาย คือ ก่อนถึง อ.โพนพิสัย 33 กม.โดยมีรถกระบะสภาพเก่านำกัญชามาขนถ่ายใส่ปะปนไปกับปุ๋ยคอกที่เตรียมมา เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่ จ.สตูล โดยมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นรถนำทางเพื่อสำรวจจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีจุดใดบ้าง จนกระทั่งมาถึงจุดตรวจดังกล่าวรถนำทางได้แจ้งว่ามีจุดตรวจ ผู้ต้องหาจึงหยุดรถและขับรถย้อนศร เพื่อหลบหนีการตรวจค้น แต่กำลังตำรวจทางหลวงที่วางกำลังก่อนถึงจุดตรวจ ตรวจพบผิดสังเกต จึงสกัดจับกุมก่อนพบผู้ต้องหาขับรถมาเพียงลำพังคนเดียว จึงตรวจค้นและพบกัญชาอัดแท่งทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ท้ายรถกระบะ โดยมีกระสอบปุ๋ยคอกวางทับและมีผ้ายางสีเทาคลุมปิดทับอีกชั้น
...
"ผู้ต้องหานั้นได้ลักลอบรับจ้างขนกัญชามาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท โดยใช้พฤติกรรมเดียวกันในการตบตาการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่ คือ การใช้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวทำทีลักลอบขนปุ๋ยคอกส่งจำหน่ายทั่วทั้งประเทศ แต่ก็นำมาลักลอบขนกัญชาอัดแท่งที่ จ.หนองคาย เพื่อนำส่งให้กับลูกค้าที่ จ.สตูล โดยหวังว่าปุ๋ยคอกนั้นจะกลบกลิ่นของกัญชา ที่ลักลอบขนครั้งละหลายกิโลกรัมได้ ซึ่งแม้ว่าจะพยายามปะปนกันระหว่างกัญชาและปุ๋ยคอก แต่ก็ไม่รอดพ้นการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของเราไปได้"
พ.ต.อ.อภิชาต กล่าวต่ออีกว่า กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว มักจะใช้รถยนต์กระบะที่ติดโครงเหล็กหลังคาสูง เพื่อที่จะปะปนกันระหว่างสินค้ากับยาเสพติด ดังนั้นการทำงานของตำรวจจะต้องรัดกุมและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ขณะที่การจับกุมตัวนายรักชาติดังกล่าวยังคงมีการซัดทอดและให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวน ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดประเภทที่ 5 กัญชา ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป