หนุ่มวัย 26 ปีมาเยี่ยมลูกกับอดีตภรรยาที่หมู่บ้านบนถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนจะมีเรื่องชกต่อยกับแฟนใหม่ของฝ่ายหญิง แต่สู้ไม่ได้ จึงชักมีดออกมาแทงหลายแผลจนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 5 ม.ค. 2563 ร.ต.อ.อภิศักดิ์ นิยมสุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบริเวณปากซอยราชพฤกษ์ 22 ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร หมู่ 5 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด ไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.นภธร วาชัยยุง รอง ผกก.ป., พ.ต.ต.จักรพรรดิ ปะถาปะตา สว.สส. สภ.ปากเกร็ด, แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ในที่เกิดเหตุพบศพ นายเอกชัย ศรีประสิทธิ์ อายุ 32 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนฟุตปาท สภาพศพถูกแทงที่ชายโครงขวา 1 แผล หัวไหล่ขวา 1 แผล ข้อมือขวา 1 แผลและต้นขาขวา 2 แผล รวม 5 แผล ใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กว 5296 นครสวรรค์ ซึ่งเป็นรถของผู้ตายจอดติดเครื่องเปิดแอร์ทิ้งไว้ ที่กันชนหน้ามีเลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนาย ทรงสิทธิ์ หรือ ‘บูล’ กลิ่นบานชื่น อายุ 27 ปี หลังเกิดเหตุได้ถือมีดวิ่งหลบหนีเข้าหลบซ่อนตัวที่บ้านท้ายซอยราชพฤกษ์ 22 จึงได้นำกำลังติดตามจับกุม โดยนายทรงสิทธิ์ยืนรอมอบตัวอยู่หน้าบ้าน

...

จากการสอบปากคำนายทรงสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายเอกชัย ทั้งนี้สืบเนื่องจากตนกับ น.ส.นับดาว กัญญโส อายุ 26 ปี ได้อยู่กินเป็นสามีภรรยาและมีลูกด้วยกันและพักอาศัยที่บ้านหลังนี้ แต่ในช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ตนจับได้ว่า น.ส.นับดาว แอบคบหาเชิงชู้สาวกับนายเอกชัย ซึ่งตนกับนายเอกชัยและ น.ส.นับดาวทำงานอยู่ที่เดียวกันย่านห้าแยกปากเกร็ด โดยตนรับไม่ได้จึงได้ขอแยกทางกับ น.ส.นับดาว กระทั่งเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาได้มาหาลูกสาวและอยู่พักอาศัย จนเมื่อช่วงเย็น น.ส.นับดาว ออกจากบ้านไปบอกว่าจะไปหาซื้อของที่ตลาด

ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านจะไปซื้อของที่หน้าหมู่บ้าน พอมาถึงตรงจุดเกิดเหตุ พบนายเอกชัยขับรถมาจอดคุยกับ น.ส.นับดาว อยู่ในรถ ตนจึงจอดรถเดินไปยืนมองทั้งสองคนอยู่ที่หน้ารถ ก่อนที่นายเอกชัยมีอาการไม่พอใจลงจากรถปรี่ตรงเข้าชกที่ใบหน้าของตนไป 1 ครั้ง ตนเห็นท่าไม่ดี บวกกับแรงแค้นจึงชักมีดพกจ้วงแทงกระทั่งนายเอกชัยเสียชีวิต ก่อนจะเอามีดข้างทิ้งในป่าหญ้าท้ายซอย 22 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และกู้ภัยได้ช่วยกันค้นหามีดของกลางนานกว่า 2 ชม. แต่ไม่พบ

นายทรงสิทธิ์ เผยด้วยว่า สาเหตุที่ต้องพกมีดเพราะ น.ส.นับดาว เคยเล่าให้ฟังว่า นายเอกชัย เคยชักปืนจ่อหัวตัวเองหลังจากทะเลาะกันอย่างรุนแรง และขู่ฆ่าให้จะตายไปด้วยกัน นายทรงสิทธิ์จึงถามอดีตภรรยาว่า ทำไมนายเอกชัยต้องพกปืน ก็ได้คำตอบว่านายเอกชัยกลัวตนมาหาเรื่อง นายทรงสิทธิ์จึงเกิดความกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงตัดสินใจพกมีดไว้ป้องกันตัว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทรงสิทธิ์ไว้ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง