จากโศกนาฏกรรมสลดใจกรณีช้างป่าเขาใหญ่ พลัดตกลงไปใน "น้ำตกเหวนรก" สู่เรื่องราวอันน่าเศร้าสลดดั่งหนังฉายซ้ำกับเหตุการณ์ “ช้าง 8 ตัวตกเหวนรกปี 2535”
ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ย้อนเหตุการณ์บีบคั้นหัวใจ “แม่ช้างร้องโหยหวน โดดลงเหวช่วยลูกน้อย” สู่จุดจบที่ไม่คาดคิด เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ที่นี่
กลางดึกของคืนวันที่ 3 ส.ค.2535 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายตรวจของอุทยานว่า ที่น้ำตกเหวนรก มีช้างหลายตัวตกลงไป จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ปรากฏว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้พบเป็นภาพที่น่าอนาถใจยิ่งนัก เพราะพบว่า มีลูกช้างตกน้ำตายที่บริเวณชั้นสองของน้ำตก คาดว่า ตกลงมาจากบนหน้าผาของน้ำตก ซึ่งสูงกว่า 200 เมตร โดยมีช้างตกลงมา 3 ตัว ตายไปแล้ว 2 ตัว ซึ่งซากช้างตัวหนึ่งลอยติดโขดหินชั้นที่ 2 ของน้ำตก
ส่วนอีกซากได้ไหลตกไปน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งน้ำเชี่ยวมาก ส่วนอีกตัวหนึ่งยังไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บ ถูกน้ำซัดขึ้นไปอยู่บนโขดหินกลางน้ำตก ซึ่งเป็นที่แคบมากอยู่ได้เพียงกลับตัวได้ โดยมีแม่ช้างและลูกช้างอีกตัวหนึ่งพยายามจะลงไปช่วยลูกของมัน แต่ลงไปไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงร้องลั่นป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถลงไปช่วยเหลือได้ และต้องรอฟ้าสว่าง
...
ขณะที่ การช่วยเหลือได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยมีกำลังทหารสมทบกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ระดมเครื่องมือไต่เขาลงไป และมีเฮลิคอปเตอร์บินให้การสนับสนุน แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะหน้าผาของน้ำตกลื่นและลาดชัน
ต่อมา เวลาประมาณ 10.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้นอีก โดยแม่ช้างได้ตัดสินใจลงไปช่วยลูกของมันที่รอความช่วยเหลืออยู่บนโขดหิน แต่น้ำตกไหลแรงมาก แม่ช้างไม่สามารถทัดทานแรงน้ำได้ จึงไหลไปตามแรงน้ำตกและหล่นลงไปในน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งทั้งลึกและเชี่ยวมากกว่าชั้นแรก
ส่วนลูกน้อยที่ติดตามแม่ของมันอีกตัวหนึ่ง เมื่อเห็นแม่ของมันลงไปในน้ำ จึงกระโดดตามลงไปด้วย จึงตกหน้าผาไปทั้งคู่ รวมช้างโขลงนี้เสียชีวิตไปแล้ว 4 ตัว เป็นแม่ช้าง 1 ตัว ลูกช้าง 3 ตัว
เช้ามืดของวันที่ 5 ส.ค. พบว่า ลูกช้างตัวที่ติดโขดหิน และแม่ช้างได้ลงไปช่วย เสียชีวิตแล้ว โดยถูกน้ำซัดไปติดกับชะง่อนหินกลางน้ำตกชั้นที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกช้างตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังไม่ยอมกินอาหารที่เจ้าหน้าที่เอาไปให้ เป็นเวลา 2 วันเต็มๆ จึงหมดแรง และประกอบกับตลอดคืนที่ผ่านมา มีฝนตกซ้ำอีก ทำให้น้ำในน้ำตกเชี่ยวมากขึ้น จึงพัดเอาลูกช้างจมน้ำตายไป
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ได้พยายามจะกู้ซากลูกช้างขึ้นมา แต่ว่าลูกช้างอยู่กลางน้ำตกติดกับชะง่อนหินหน้าผาชั้นที่ 2 ซึ่งพร้อมจะร่วงไหล เพราะน้ำเชี่ยวมาก และเกรงว่า อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่พลัดตกลงไปได้ จึงได้ยุติชั่วคราวรอให้นำ้ลดความแรงลงบ้าง
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ไปสำรวจบริเวณต้นน้ำตกชั้นที่ 3 ได้พบศพลูกช้างเพิ่มเติมอีก 2 ตัว เป็นช้างอายุ 2 ขวบกว่าหนึ่งตัว และอายุขวบกว่าอีกหนึ่งตัว
...
ทั้งนี้ นายทัศนัย เปิ้นสมุทร ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ตำแหน่งขณะนั้น) กล่าวว่า ศพลูกช้างที่พบภายหลังน้ี เข้าใจว่าเป็นลูกช้างในโขลงเดียวกัน และตกเหวเสียชีวิตพร้อมกัน แต่ศพจมอยู่ใต้น้ำ จึงไม่พบในครั้งแรก และเพิ่งขึ้นอืดลอยขึ้นเหนือน้ำ รวมแล้วมีช้างตายทั้งหมด 7 ตัว แบ่งเป็นแม่ช้าง 1 ตัว ลูกช้าง 6 ตัว
กระทั่งวันต่อมา พบศพแม่ช้างอีก 1 ตัวลอยขึ้นอืดอีกตัวหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า แม่ช้างตัวนี้อาจจะช่วยลูกแล้วถูกกระแสน้ำพัดตกลงมา แต่เพราะลำตัวหนัก จึงจมอยู่ใต้น้ำ รวมช้างเสียชีวิตทั้งสิ้น 8 ตัว
...
ณ เวลานั้น ผช.หัวหน้าอุทยานฯ ได้ออกมาให้ข่าวอีกว่า ซากทั้งหมดไม่สามารถนำขึ้นมาจากน้ำได้ จะต้องใช้วิธีชำแหละเพื่อนำโครงกระดูกไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ส่วนการทำโครงเหล็กหรือรั้วกั้นบริเวณหน้าผานั้น เดิมเคยสร้าง แต่พวกช้างได้ทำลายพังจนหมดสิ้น โดยผู้ใหญ่จะจัดส่งนักวิชาการมาศึกษา เพื่อที่จะหาทางป้องกัน
...
ณ เวลานั้น เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า อาจมีลูกช้างเสียชีวิตมากกว่านี้ก็เป็นได้ เพราะว่าช้างโขลงนี้ จะอยู่รวมกันประมาณ 10 ถึง 12 ตัว ซึ่งหลังจากมีลูกช้างตกเหวแล้ว ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้ใดพบกับช้างที่เหลือในโขลงนี้อีกเลย...