เผยชะตากรรม คนริมน้ำปราจีนบุรี มีน้ำเน่าถูกปล่อยออกมาทุกปี ที่มาคือ โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ชาวบ้านโวย ปีนี้ปล่อยมากสุดในรอบ10ปี กระทบทั้งปลาแม่น้ำ ปลากระชัง วอนภาครัฐจัดการให้เด็ดขาด
จากกรณี นายชัชชัย ไพเราะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี แจ้งว่า มีน้ำสีดำจำนวนมากไหลอยู่ในคลองสาธารณะส่งกลิ่นเหม็น และมีปลาลอยตาย คาดว่าน่าจะเป็นน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมาจากบ่อบำบัดน้ำเสียของบริษัทแห่งหนึ่งในเขตนิคมอุตสาหกรรม 304 ส่งผลให้ปลาในคลองสาธารณะลอยตาย ส่วนปลากระชังในแม่น้ำของชาวบ้านเริ่มลอยคอขึ้นผิวน้ำ เพราะขาดอากาศหายใจ ส่วนมวลน้ำเน่าเสียที่ไหลลงแม่น้ำปราจีนบุรี กำลังสร้างผลกระทบกับผู้ประกอบการเลี้ยงปลาในกระชังของชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอต่างๆ คือ อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมืองปราจีนบุรี และอ.บ้านสร้าง
ล่าสุด วันที่ 5 ก.ย. จากการตรวจสอบผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชังในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ ในแม่น้ำปราจีนบุรี เกือบ 200 กระชัง ที่มีน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรมปล่อยมวลน้ำเสียจากโรงงานลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี ปรากฏว่าสภาพน้ำยังคงเน่าเสียและขาดออกซิเจน ผู้เลี้ยงปลาในกระชังต้องติดต่อพ่อค้ามาทำการจับปลาทันที เนื่องจากปลาเริ่มทยอยตายจำนวนมาก โดยไม่มีผู้เกี่ยวข้องจากโรงงานมีติดต่อพูดคุยแต่อย่างใด ปล่อยให้ชาวบ้านต้องรับชะตากรรมกันเอง
...
นายสุรชัย ไผ่สุข อายุ 56 ปี อยุ่เลขที่ 91 หมู่ 2 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง กล่าวว่า ถ้าเราจะฟ้องร้องมันก็ลำบาก แต่ตนอยากให้ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมมีมาตรการ เพราะไม่ได้เป็นครั้งแรก มันหลายครั้งแล้ว
“ถ้ามีมาตรการคือคุณต้องเซ็นเช็คไว้ล่วงหน้าว่าคุณต้องจ่ายเลย ถ้าเกิดอีกคุณต้องจ่าย และเยียวยาด้วย และคุณต้องมีวิธีบล็อกหลาย ๆ ชั้น แต่อย่างนี้ มันเหมือนคุณเจตนามากกว่า”
ด้านนางอุบล กลิ่นจันทร์ อายุ 53 ปี กล่าวว่า ร้องเรียนไปก็เท่านั้นแหละ เรามีหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างประมงก็มาคุยให้เราขึ้นทะเบียนไว้ เราก็ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมเจ้าท่าและประมงไว้แล้ว แต่สถานการณ์ขณะนี้ จะให้เราขึ้นทะเบียนอีกครั้ง เพื่อลงรายชื่อว่าเราได้รับผลกระทบ ในส่วนของโรงงานเราจะให้เขารับผิดชอบขนาดไหน ซึ่งโรงงานก็ไม่ได้มาติดต่อ เขาจะให้ประมงเป็นคนเคลียร์ให้เรา
“ปีนี้เป็นมาก เลี้ยงปลากระชังมา 10 ปี ไม่เคยเจอปัญหานี้ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะเป็นน้ำเสียจากโรงงาน คิดว่าเป็นหญ้าเน่า ปลาไม่กินอาหารจนมาประมาณวันที่ 30 ก.ย. ก็สงสัยและถามในกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง ว่าปลาใครลอยหัวไม่กินอาหารบ้าง เขาก็บอกว่าทั้งลำน้ำเลย ก็เลยรู้จากในกลุ่มๆ ของเรา อยากจะบอกทางภาครัฐ ขอให้บอกเขาว่าอย่าปล่อยอีกเลย เขาจะบอกว่าไม่เจตนา มันพังลงมาเอง เขาก็แก้ไขแล้วทำคันดินกั้นและสูบน้ำเข้าไปเหมือนเดิม เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันไม่ได้แก้เลย เราได้รับผลกระทบ ปลาตายเยอะ เมื่อเช้านี้ก็ตาย” นางอุบลกล่าว