ความประมาทของผู้ใช้รถใช้ถนนทำให้เกิดรถชนวินาศสันตะโร 2 รายซ้อน รายแรกหนุ่ม ห้อรถปิกอัพเบียดกับรถพ่วง 18 ล้อขับตีคู่กันมา ทำให้รถเสียหลักเหินข้ามเกาะกลางถนนชนช่วงกระบะท้ายรถปิกอัพที่ขับสวนทางมา ก่อนชนกับรถเก๋งอีกคันพลิกตะแคงคาถนน ขณะที่รถปิกอัพที่ถูกชนท้ายหมุนข้ามเกาะกลางถนนเฉี่ยวชนรถที่สวนทางมาอีก 4 คัน รวมเสียหายถึง 7 คัน บาดเจ็บ 3 คน

อีกรายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกถ่านหินห้อลงสะพาน พอพ้นโค้ง เห็นรถติดขัดยาวท้ายรถเกือบถึงกลางสะพาน เลยเบรกไม่ทันพุ่งชนท้ายรถด้านหน้า กระเด็นกระดอนเสียหายรวม 5 คัน เจ็บรวม 10 คน

ชนวินาศ 2 รายซ้อน รถเสียหายยับกว่าสิบคัน บาดเจ็บระนาว 13 คนโชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต รายแรกเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ก.ย. พ.ต.ท.จงเดช ศรีตะวัน สว. (สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนสิริโสธร หน้าฟาร์มรัศมี หมู่ 1 ต.หนองจอก นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา หน่วยกู้ชีพ รพ.บางปะกง ไปสอบสวนและให้ความช่วยเหลือ

พบว่าบนถนนสิริโสธร ฝั่งขาเข้าบางปะกง พบรถเก๋งโตโยต้าเซียนตร้าสีขาว ทะเบียน 6 กฉ 7349 กรุงเทพมหานคร มีนายกิตติพันธ์ เจ็งศิริ อายุ 35 ปี เป็นคนขับ ถูกชนด้านขวายุบจอดอยู่ข้างทางใกล้กันพบรถปิกอัพมิตซูบิชิไทรทัน สีเทาดำ ทะเบียน บม 1267 ฉะเชิงเทรา พังยับทั้งคันพลิกตะแคงอยู่กลางถนน คนขับชื่อนายสมศักดิ์ ปัญญาทิพย์ อายุ 36 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 11 ถนนฝั่งตรงข้ามขาเข้าฉะเชิงเทรา มีรถเฉี่ยวชนกันเสียหายอีก 5 คันจอดอยู่ใกล้เคียงกัน ได้แก่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อีซูซุสีขาว ทะเบียน 70-1320 นครนายก ตัวพ่วงทะเบียน 70-1038 นครนายก ของนายอาสา วันฤกษ์ อายุ 30 ปี ถูกเฉี่ยวชนด้านขวา รถปิกอัพโตโยต้าวีโก้สีทอง ทะเบียน ฒข 1383 กรุงเทพมหานคร หน้ารถพังยับเยิน คนขับชื่อนายภานุ ปราบทุกข์ อายุ 32 ปี กับ น.ส.นิตยา สุขเกษม อายุ 36 ปี บาดเจ็บสาหัสถูกนำส่ง รพ.บางปะกง รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์สีบรอนซ์ ทะเบียน กม 879 ภูเก็ต รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อีซูซุสีขาว ทะเบียนตัวแม่ 70-1271 มุกดาหาร และรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุสีขาว ทะเบียน 80-5828 นครนายก จอดขวางถนน ทำให้รถติดขัดยาวกว่า 5 กม.

...

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมศักดิ์ขับรถปิกอัพมิตซูบิชิไทรทันมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทราแล้วเฉี่ยวชนกันรถพ่วง 18 ล้ออีซูซุที่นายอาสาขับตีคู่กันมา ทำให้รถพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนชนเสาไฟฟ้าข้ามฝั่งไปชนช่วงกระบะท้ายของรถปิกอัพโตโยต้าวีโก้นายภานุขับมากับแฟนสาว ก่อนชนกับรถเก๋งโตโยต้าเซียนตร้าที่นายกิตติพันธ์ขับตามหลังรถมาจนสิ้นฤทธิ์พลิกตะแคงแน่นิ่ง ส่วนรถปิกอัพโตโยต้าวีโก้ของนายภานุหมุนข้ามเกาะกลางไปชนกับรถที่ขับตามกันมาอีก 4 คัน ทำให้มีรถเสียหายรวม 7 คัน มีผู้บาดเจ็บรวม 3 คน

อีกราย บ่ายวันเดียวกัน ร.ต.ท.กรกฏ ศรนิกร รอง สว. (สอบสวน) สภ.คูบางหลวง จ.ปทุมธานี นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู หน่วยแพทย์กู้ชีพ รพ.ปทุมธานี รพ.ลาดหลุมแก้ว สอบสวนเหตุรถชนกันหลายคันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายติดอยู่ในรถ บริเวณคอสะพานบางเตย ถนนวงแหวนฝั่งตะวันตก (หมายเลข 9) หลัก กม.ที่ 66+300 ฝั่งมุ่งหน้า อ.บางบัวทอง หมู่ 1 ต.คูบางหลวง อยู่ระหว่างก่อสร้างขยายถนนเหลือเพียง 2 ช่อง

พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อีซูซุ ทะเบียน 70-8707 เชียงราย ลูกพ่วง 70-8719 เชียงราย บรรทุกถ่านหิน ชนเบียดติดคารถปิกอัพเชฟโรเลตสีขาว ทะเบียน 2 ฒฏ 5309 กรุงเทพมหานคร ใกล้กันพบรถปิกอัพโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฆข 8942 กรุงเทพมหานคร นายองอาจ ศิริจันทร์อายุ 35 ปี และ น.ส.ลดาวัลย์ ศิริจันทร์ อายุ 35 ปี ถูกอัดก๊อบปี้ติดคารถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันงัดรถนำส่ง รพ.ปทุมธานี และรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ เลขทะเบียน 89-4393 นครปฐม ตัวพ่วงทะเบียน 89-4394 นครปฐม จอดหน้าสุดถูกชนท้ายเสียหาย นายเสกสรร สีทา อายุ 43 ปี คนขับ เจ็บหน้าอกเพราะถูกกระแทกในร่องกลางถนนพบรถปิกอัพเชฟโรเลตสีแดง ทะเบียน บย 1066 ชัยภูมิ ชนอัดแท่งแบริเออร์พังยับ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ชื่อนายสุรชัย คลองโภค อายุ 45 ปี นางงามศิริ มหาไม้ อายุ 37 ปี ด.ญ.วาธินี แย้มผึ้ง อายุ 14 ปี และ ด.ช.ศิริพันธ์ ฤทธิ์มนต์ อายุ 10 ขวบ นำส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส รวมรถได้รับความเสียหาย 5 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน คือ ด.ช.ศิริพันธ์ แขนซ้ายหัก แพทย์รับไว้ดูอาการ นอกนั้นแพทย์ทำแผลแล้วอนุญาตให้กลับได้ และยังส่งผลให้รถติดขัดหนักหลาย กม.

สอบสวนทราบว่า นายสกลขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อีซูซุ บรรทุกถ่านหินมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา จะไปส่งที่มหาชัย กระทั่งรถข้ามช่วงกลางสะพาน เห็นรถติดขัดยาวเกือบถึงกลางสะพาน ทำให้เบรก ไม่ทันพุ่งชนท้ายรถปิกอัพเชฟโรเลตสีขาวเต็มแรงจนรถหมุนกลับไปอีกทาง ก่อนไถลเฉี่ยวชนรถที่จอดใกล้เคียงกระเด็นไปคนละทิศละทาง กระทั่งรถพ่วงอีซูซุชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ ที่จอดหน้าสุดจนจอดแน่นิ่งดังกล่าว ตำรวจจะได้สอบสวนคนขับและผู้เกี่ยวข้องหาต้นตออุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป