ผู้คุมเรือนจำหนุ่มซิ่งเก๋งเร่งกลับบ้านเพื่อทานข้าวกับเมีย เสียหลักชนท้ายรถเทรลเลอร์บรรทุกเหล็ก ระหว่างจุดกลับรถถนนมาลัยแมน สายนครปฐม-กำแพงแสน ดับอนาถ ทั้งที่เหลือไม่กี่กิโลจะถึงบ้านพักเรือนจำแล้ว...
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 4 ก.ย.62 พ.ต.ท.บุญศักดิ์ ติ๊บมา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายรถเทลเลอร์ บรรทุกเหล็กแท่ง มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนมาลัยแมน ถนนสายนครปฐม-กำแพงแสน หน้าพัฒนาดีโฮมมาร์ท หมู่6 ต.วังตะกู อ.เมืองนครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก พบรถยนต์เก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีขาว ทะเบียน กพ 6173 นครปฐม จอดอยู่ติดเกาะกลางถนนในสภาพรถพังยับเยิน ยางล้อหน้าแตก กระจกแตก หน้ารถยุบพังกระโปรงหน้าหลุด แผ่นป้ายทะเบียนหลุด เครื่องยนต์แตกออกจากตัวรถ เศษชิ้นส่วนรถหล่นเกลื่อนบนถนน ภายในรถยังพบศพนายเฉลิมพล สงวนพงษ์ อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 39/327 หมู่ 1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มีตำแหน่งผู้คุมเรือนจำกลาง จ.นครปฐม สภาพศพสวมเสื้อยืดคอปกสีแดง ที่กระเป๋าหน้าอกปักอักษรเสื้อกรมราชทัณฑ์ สวมกางเกงสีดำ รองเท้าผ้าใบ นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดคาเบาะรถเก๋ง ลำตัวเอียง ศรีษะพาดไปทางเบาะผู้โดยสารด้านหน้า มีบาดแผลรอยเจาะเป็นรูที่หน้าผาก จนหน้าผากเปิดเห็นกระโหลก คอหัก ขาหัก เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำศพออกมานอกตัวรถเพื่อรอแพทย์ชันสูตร

...
ห่างกัน 20 เมตร ทางด้านหน้ารถพบรถเทรลเลอร์ พ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ นิสสัน ทะเบียน ตัวแม่ 70-9409 พระนครศรีอยุธยา หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 70- 1288 พระนครศรีอยุธยา บรรทุกเหล็กแท่งตันขนาดใหญ่มาเต็มคัน จอดอยู่ริมถนน ตรวจสอบบริเวณท้ายรถมีร่องรอยการชนท้ายยุบเสียหาย ที่ด้านหน้ารถยังพบนายเจษฎา หลวงใจ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/5 หมู่ 2 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร คนขับยืนรอให้การกัยตำรวจ
นายเจษฎา เปิดเผยว่า ขับรถบรรทุกเปล่ามาขึ้นเหล็กที่โรงงานเหล็ก ต.หนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม เป็นเหล็กแท่งตัน น้ำหนัก 33 ตัน หลังขึ้นเสร็จมุ่งหน้าไปส่งที่ ต.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งรถเป็นของบริษัท ธนพร โลจิสติกส์ จำกัด เมื่อขับออกจากโรงงานเหล็ก ขับออกมาจากซอยเพื่อที่จะมาขึ้นถนนมาลัยแมน เพื่อยูเทิร์นมุ่งหน้าลงใต้ ในช่วงนั้นไม่มีรถวิ่ง จึงขับชะลอเมื่อใกล้ถึงจุดจู่ๆก็ได้ยินเสียงโครมใหญ่ที่ท้ายรถ ตอนแรกตนคิดว่ายางล้อรถยนต์แตก จึงขับรถจอดชิดขอบทางเพื่อลงมาดู แต่ปรากฏว่ามีรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายรถของตนเข้าอย่างแรงจนเสียชีวิต จึงรีบโทรแจ้ง ตร.

ระหว่างที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเกตุ ญาติของผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ได้เผยในเบื้องต้นกับตำรวจว่า ผู้ตายเลิกงานตอนเย็นบอกทางบ้านว่าจะไปหาญาติที่ จ.สุพรรณบุรี แล้วจะรีบกลับมาทานข้าวที่บ้าน ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในเรือนจำ กระทั่งก่อนเกิดเหุได้โทนศัพท์มือถือมาบอกภรรยาที่สุพรรณแล้วใกล้จะถึงบ้านเหลืออีกไม่กี่กิโล เพราะจุดที่เกิดเหตุนั้นเกือบจะถึงเรือนจำกลาง สักพักเดียวทางบ้านก็ได้รับแจ้งว่านายเจษฎา ขับรถชนท้ายรถเทรลเลอร์ตายคารถ เลยรีบออกมาดูก็พบว่านายเจษฎานอนตายคาอยู่ในรถ
ด้านพนักงานสอบสวน เผยว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าผู้ตายน่าจะขับยูเทิร์นรถเพราะมาจากสุพรรณฯ ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นอยู่คนละฝั่งเพราะเรือนจำกลางที่เป็นบ้านพักอยู่ฝั่งขาไปกำแพงแสน เพราะฉนั้นผู้ตายต้องยูเทิร์นเพื่อกลับที่พักในเรือนจำ และคงวิ่งมาด้วยความเร็ว เพราะจากการตรวจสอบไมล์รถยนต์คาอยู่ที่130 และถนนอาจจะมืดทำให้มองไม่ชัดประกอบกับมาเร็วบังคับรถไม่อยู่ชนเข้าอย่างจังจนเสียชีวิต แต่ถึงอย่างไรต้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง

...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดกลับรถบริเวณนี้มักจะเกิดอุบัตเหตุนี้ เนื่องจากไฟส่องถนนมืดและมีรถบรรทุกพ่วงออกจากซอยมาก เนื่องจากเป็นซอยที่มีโรงงานหลายแห่ง ทั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์ โรงหล่อเหล็กเส้น ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 อาทิตย์ก็มีรถ จยย.ชนท้ายรถพ่วงเสียชีวิต จนชาวบ้านขนานนามเป็นจุดยูเทิน 100 ศพ..