ชื่อของ “ครูอ้อม” กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อครูคนหนึ่งตัดสินใจลุกขึ้นทวงถามความถูกต้องเรื่อง “อาหารกลางวัน” ของเด็กนักเรียนตัวน้อย แต่กลับถูกมือมืดปาเลือดใส่จนเธอขวัญผวา และถูกย้ายไปมา จนเป็นเหตุวุ่นวายกันไปทั้งหมู่บ้าน ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงให้คุณเข้าใจเหตุการณ์นี้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- เริ่มต้นจาก(21 ส.ค.) นางสาวอ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ อายุ 32 ปี หรือ “ครูอ้อม” ครูสาวสอนนักเรียนชั้นอนุบาล 1 และอนุบาล 2 โรงเรียนวัดวงเดือน จ.ชัยนาท โพสต์ภาพเลือดสดกระจายเต็มหน้าห้องเรียน พร้อมระบุข้อความว่า "แค่ทำให้เด็กเพื่อความถูกต้อง ต้องทำกันขนาดนี้เลยใช่มั้ย #ช่วยแชร์ออกไปให้คนรับรู้ค่ะ #ครูรับไม่ไหวแล้ว" ก่อนที่ข้อความดังกล่าวจะถูกลบออกไป
- เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ ครูอ้อมทนไม่ไหว และออกมาทักท้วงเรื่องอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน เนื่องจากบางมื้อเด็กได้กินมาม่าผัดเปล่าๆ ไม่มีเนื้อหมู หรือไข่ ทั้งยังไม่มีขนม หรือผลไม้
- ครูอ้อมขออนุญาต ผอ.โรงเรียน เข้าแจ้งความ เพราะเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา เธอไม่มีศัตรู ไม่มีหนี้สิน และไม่เคยมีเรื่องกับใคร
- เมื่อครูอ้อมทบทวนดูแล้ว พบว่า เธอต่อสู้กับเรื่องอาหารกลางวันมานานแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เธอไปตำหนิแม่ครัวให้ปรับปรุงเรื่องอาหารให้ดีขึ้น จาก 1 อย่าง ให้มี 2 อย่าง บางวันก็มี 2 อย่าง บางวันก็มีอย่างเดียว บางวันแย่มาก คือ ผัดมาม่า
- ผู้ปกครองของเด็กรายหนึ่ง ได้แคปภาพจากหน้าเฟซบุ๊กของ แม่ครัว ของโรงเรียน ซึ่งเป็นรูปถุงเลือด 2 ถุง พร้อมข้อความทำนองว่า ประกาศขายเลือดหมูมือสอง ก่อนที่จะมีการลบโพสต์ออกไป
- ต่อมา นางพันทิพา หรือป้าแต๋ว เอี่ยมละเอียด แม่ครัวโรงเรียนวัดวงเดือน ได้ชี้แจงว่า ครูอ้อมโพสต์ว่าเกิดเหตุตอนเช้า แต่เธอโพสต์หลังครูอ้อมถูกปาเลือด เพราะอยากให้รู้ว่าถุงเลือดยังอยู่นะ ไม่ได้ทำอะไร
- ป้าแต๋ว แม่ครัวโรงเรียน กล่าวกับสื่อว่า ที่ครูอ้อมอ้างว่า เคยเตือนเรื่องอาหารกลางวันแล้ว ยืนยันว่าไม่มีใครเตือน เธอเองได้ค่าอาหารกลางวัน 10,400 บาทต่อสัปดาห์ ยืนยันว่าไม่เคยหักค่าอาหารเด็ก ยกเว้นหักเงิน 400 บาท เป็นค่าแรง
- 24 ส.ค. ตำรวจพบถุงเลือด และถุงใส่มาม่าผัด อยู่ก้นถังขยะใกล้อาคารเรียนที่เกิดเหตุ ยังไม่ฟันธงว่า ใครเป็นมือปาเลือด
- ผู้สื่อข่าวหลายสำนัก เดินทางไปยังโรงเรียน เพื่อเสาะหาข้อเท็จจริงว่า อาหารกลางวันของนักเรียนเป็นเช่นไร พบว่า มีทั้งเด็กที่บอกว่า อาหารมีหลายอย่าง ปริมาณมาก ผักผลไม้ครบถ้วน ส่วนเด็กบางคนก็ระบุว่า ไม่เคยได้กินกับข้าวดีๆ
- นักเรียนชั้น ป.5 คนหนึ่งกล่าวกับสื่อว่า “เคยไปบอก ผอ. แล้ว ว่าอยากกินข้าวมันไก่ แต่กลับบอกอยากกินก็ไปซื้อเอาเอง ขนม ผลไม้ก็ไม่ค่อยมี แต่วันนี้มีเงาะ เพราะนักข่าวเข้าไป”
- 25 ส.ค. ครูอ้อม เปิดเผยว่า นายสุเทพ สิงห์สม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวงเดือน เรียกประชุมครูด่วน โดยต้องการให้ครูอ้อมเซ็นเอกสารตรวจรับอาหารกลางวันของเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม โดยพยายามพูดกดดันว่า ขอให้ตนเห็นแก่องค์กร และเพื่อนร่วมงาน ขอให้เซ็นเอกสารเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน แต่ครูอ้อมไม่เซ็น
- 26 ส.ค. นางสาวลออ วิลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่ประถมศึกษาชัยนาท พร้อมคณะ เดินทางไปยังโรงเรียน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
- 28 ส.ค. นางสาวลออ ผอ.สำนักงานเขตฯ ออกหนังสือคำสั่ง ให้ครูอ้อม ไปช่วยปฏิบัติราชการเป็นการชั่วคราว ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. 2562 เป็นต้นไป
- 28 ส.ค. ชาวบ้านทราบข่าวว่า ครูอ้อมถูกย้าย จึงเกิดความไม่พอใจ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่โรงเรียน พร้อมออกมาทวงถามว่า ทำไมคนดีๆ ต้องออกไปเพียงเพราะพูดความจริง และทำไมอาหารครบถ้วนสมบูรณ์เฉพาะตอนนักข่าวมา
- ในวันเดียวกัน ป้าแต๋ว แม่ครัวโรงเรียน เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงเรียนเชิญให้ออกแล้ว ตนถูกด่าสารพัดว่าเลวกินเงินเด็ก สภาพจิตใจย่ำแย่มากเหมือนผิดคนเดียว
- ต่อมาวันรุ่งขึ้น(29 ส.ค.) มีหนังสือ เซ็นโดย นางสาวลออ ผอ.สำนักงานเขตฯ คนเดิม ย้ายครูอ้อมกลับมาที่โรงเรียนดังเดิม
- ในขณะเดียวกัน นางสาวลออ ผอ.สำนักงานเขตฯ ได้เซ็นย้าย นายสุเทพ สิงห์สม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวงเดือน ไปช่วยปฏิบัติงานที่เขตพื้นที่ประถมศึกษาชัยนาท
- นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายังโรงเรียนวัดวงเดือน เพื่อตรวจสอบ และพบว่า ในวันที่มีผัดมาม่านั้น ตามแผนแล้วจะต้องเป็นผัดซีอิ๊ว
- แม่ครัว ยืนยันว่า เมนูเดิมวันนั้นคือ ผัดซีอิ๊วจริง แต่หาวัตถุดิบไม่ครบ เพราะเป็นวันสารทจีน จึงแจ้งครู ขอเปลี่ยนเมนูเป็นผัดมาม่า ซึ่งมีการใส่ไข่ หมูบด และผัดกะหล่ำปลี 2 หัว ส่วนเรื่องการถูกไล่ออก ตนยินยอม เพราะอยู่แล้วอึดอัด
- ต่อมา นางสาวลออ ผอ.สำนักงานเขตฯ เผยเหตุผลที่ย้ายครูอ้อมในตอนแรกว่า กลัวว่าครูอ้อมจะไม่ปลอดภัย จึงย้ายไปอยู่ใกล้ตัวเพื่อความสบายใจ
- 30 ส.ค. ป้าแต๋ว แม่ครัว เผยว่า วันนี้ต้องทำกับข้าวให้นักเรียนเป็นมื้อสุดท้าย(ข้าวหมูแดง ขนมปังปิ้งนมเนย) รู้สึกใจหาย ไม่รู้สึกเครียด มีเรื่องคาใจ คือ อยู่มาตั้งนานไม่เคยมีปัญหา มามีปัญหาช่วงที่จะหมดสัญญาจ้างเหมา เหมือนมีคนอยากมาแทนที่
- “หลวงพ่อเศียรอันศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกด้วย ลูกพูดความจริง คิดที่จะช่วยทุกคนแต่ทำไมลูกต้องได้รับผลกรรมอย่างนี้ ลูกต้องมาโดนใส่ร้ายอย่างนี้ ขอให้หลวงพ่อช่วยลูกด้วย ช่วยไขให้มันกระจ่างด้วยเถิด” แม่ครัวยกมือไหว้ท่วมหัว
...
ใครปาเลือด
ใครผิด ใครถูก
อีกไม่นานเกินรอ คงได้รู้กัน...