ปธ.กก.สถานศึกษา แจงดราม่าครูโรงเรียนบ้านศรีเจริญทอง ยึดมือถือนักเรียน ม.2 เหตุทำผิดนำมือถือเข้าห้องในชั่วโมงเรียน จึงมีการลงโทษตามกฎระเบียบ ด้านเด็กคนโพสต์ถูกคนรอบข้างกดดันต้องหาที่เรียนใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมโรงเรียนบ้านศรีเจริญทอง หมู่ที่ 10 บ้านศรีเจริญทอง ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา นายฉันท์ แป้นเพชร นายอำเภอท่าตะเกียบ เป็นประธานการประชุมผู้ปกครองนักเรียน โดยมีผู้ใหญ่เกรียงไกร ถุงพันธ์ ประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านศรีเจริญทอง นายสิร์ปพัศ เกษมสวัสดิ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านศรีเจริญทอง พร้อมผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง ครู นักเรียนกว่า 500 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อหาข้อเท็จจริงและข้อสรุป จากกรณีที่กระแสสื่อโซเชียล นำเสนอว่ามีนักเรียนหญิงถูกนายสิร์ปพัศ เกษมสวัสดิ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการฯ ยึดโทรศัพท์มือถือไปในเวลาเรียนโดยไม่มีเหตุผล และจะยึดไว้จนกว่าจะเรียนจบ จนกลายเป็นประเด็นสร้างความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายให้โรงเรียนและชุมชนเป็นอย่างมาก เป็นการการนำเสนอข่าวด้านเดียว โดยที่ผู้เกี่ยวข้องไม่มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าว
นายเกรียงไกร ถุงพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านศรีเจริญทอง ในฐานะประธานกรรมการสถานศึกษาฯ การประชุมผู้ปกครองวันนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและอธิบายข้อเท็จจริงคือ กฎระเบียบของโรงเรียน ที่ครูสามารถลงโทษ ตามกฎระเบียบ ทางโรงเรียนบ้านศรีเจริญทอง เป็นข้อห้ามนักเรียนทุกคนนำโทรศัพท์มาในเวลาเรียน หากนักเรียนทำผิดกฎ ก็จะมีบทลงโทษเป็นข้อๆ คือ เริ่มจากยึดโทรศัพท์มือถือนักเรียนไว้ แล้วเชิญผู้ปกครองมารับทราบ เพื่อรับคืน ขณะเดียวกันก็ลงโทษนักเรียนโดยให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 5 ชม. เมื่อครบ ก็จะคืนให้แต่ต้องมีผู้ปกครองนักเรียนมารับด้วยตนเอง และหากนักเรียนยังกระทำผิดซ้ำอีก ก็จะทำการยึดโทรศัพท์นักเรียนเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียน และให้ผู้ปกครองมารับคืนได้มีประกาศระเบียบฯ ชัดเจน
...
นายฉันท์ แป้นเพชร นายอำเภอท่าตะเกียบ เปิดเผยว่า ประเด็นเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่คณะครูได้มองเห็นแล้วว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะการนำโทรศัพท์โรงเรียนหรือเข้ามาในเวลาเรียน ไม่เป็นผลดีกับเด็กที่อาจจะไม่สนใจหรือขาดสมาธิในการเรียนการสอน จึงออกกฎระเบียบออกมาดังกล่าว ความจริงน่าจะชื่นชมแนวความคิดของคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูในเรื่องนี้ และขอให้ผู้ปกครองทุกๆ คนเข้าใจโรงเรียน ขอให้ช่วยสอดส่องดูแลบุตรหลานในด้านต่างๆ ด้วยถือเป็นการมอบอนาคตที่ดีงามให้กับบุตรหลานของตนเอง โดยเฉพาะการใช้เวลาที่เหมาะสม แบ่งเวลาการเรียนการสอน การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการศึกษาหาความรู้หรือความบันเทิงในด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ ก็จะเกิดผลดีกับตัวเด็กนักเรียนและครอบครัวของเด็กนักเรียนเองด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเด็กนักเรียนหญิงที่โพสต์เรื่องราวในโลกโซเชียลคนดังกล่าว ไม่ได้มาโรงเรียนในวันนี้ สอบถามจากเพื่อนๆ ทราบเพียงว่า ก่อนหน้านี้เธอได้ย้ายตามผู้ปกครอง และมาเรียนที่โรงเรียนบ้านศรีเจริญทอง ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้ไม่นาน เพื่อนร่วมชั้น ระบุว่า นักเรียนหญิงคนนี้มีพฤติกรรมชอบแอบนำโทรศัพท์เข้าไปในชั้นเรียนเสมอๆ และทราบว่าในวันนี้ผู้ปกครองพยายามหาทางย้ายที่พัก และสถานที่เรียนแห่งใหม่ แต่ไม่ทราบว่าที่ใด จึงไม่มาร่วมประชุมด้วย ส่วนสาเหตุที่ย้าย เพราะครอบครัวถูกกดดันจากชาวบ้านในชุมชน เพื่อนร่วมห้องเรียน เนื่องจากเป็นต้นเหตุที่ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียงชื่อเสียงในครั้งนี้.