ตำรวจจับได้แล้วสาวแสบวัย 43 มาหลอกตีสนิทอ้างเป็นเพื่อนลูกสาวหลอกว่าหิวข้าว จังหวะยายเข้าครัว แอบขโมยเงินในกระเป๋า ได้เงินสดไปกว่า 1 หมื่นบาท ทองอีก 1 บาท

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.62 ตำรวจกองกำกับการ 3 กองปราบปราม ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และชุดสืบสวน สภ.นาโพธิ์ บุรีรัมย์ ตามจับตัว น.ส.ธวัลกร แคฝอย อายุ 43 ปี ได้ที่บ้านพักเลขที่ 302 หมู่ 2 ต.สะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.นาโพธิ์ กรณีนางนวลศรี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี และนายลี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี สองสามีภรรยาซึ่งปกติจะอยู่บ้านตามลำพัง ถูกหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาหลอกตีสนิทอ้างเป็นเพื่อนลูกสาว แล้วออกอุบายว่าหิวข้าว ให้ยายหากับข้าว ก่อนจะแอบขโมยเงินในกระเป๋าในบ้าน ได้เงินสดไปกว่า 1 หมื่นบาท ทองอีก 1 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 30,000 บาท เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวน น.ส.ธวัลกร ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยเงินสดและทองของสองตายายที่ อ.นาโพธิ์จริง แต่เพิ่งทำเป็นครั้งแรก โดยผู้ต้องหาขอโทษยาย พร้อมเผยว่าครั้งนี้ตนทะเลาะกับสามีที่ จ.อุทัยธานี ตะเวนขี่รถจักรยานยนต์มาเรื่อยๆ เมื่อมาถึง อ.นาโพธิ์ เงินหมดจึงตระเวนหาคนแก่ เมื่อสบโอกาสเห็นยายจึงวางแผนหลอกยายเข้าไปขโมยเงินภายในบ้าน

...

นางนวลศรี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ดีใจที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเงินที่ได้คืนมา 40,000 บาท ขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและพูดถึงคนร้ายไม่ควรประพฤติเช่นนี้อีกเพราะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

ด้าน พ.ต.อ.ศิลปชัย พงศ์วัชรจินดา ผู้กำกับ สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ กล่าวว่า หลังจากออกหมายจับแล้ว ได้ประสานตำรวจกองปราบและชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี ร่วมตำรวจ สภ.นาโพธิ์ เข้าไปสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหากบดานอยู่ที่บ้านพัก ก่อนจะวางแผนจับกุมดังกล่าว สำหรับผู้เสียหายที่เคยโดนหลอกในลักษณะนี้มาก่อน สามารถมาดูตัวและแจ้งข้อหาเพิ่มได้ที่ สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์.