หนุ่มวัย 20 เจ้าของหนุ่มโรงสี กับรุ่นพี่วัย 39 ฉายา "เข ท่าแจง" เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด ถูกจ่อยิงศพคาถนนลูกรัง เลียบคลองที่บ่อพลอย กาญจนบุรี ตำรวจให้น้ำหนักขัดแย้งส่วนตัว
เวลา 06.30 น. วันที่ 21 ก.ค. ร.ต.อ.ปรัชญา มณีสว่าง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุว่าชาวบ้านพบศพชาย 2 คนนอนเสียชีวิตที่ถนนเลียบคลองส่งน้ำ โครงการส่งน้ำด้วยไฟฟ้า บ้านท่าแจง หมู่ 6 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังเลียบคลองไส้ไก่ส่งน้ำระบบชลประทาน ในโครงการส่งน้ำด้วยไฟฟ้า บ้านท่าแจง หมู่ 6 ตำบลหนองกุ่ม ห่างจากถนนสายบ้านท่าแจง-บ้านทุ่งมะสัง ประมาณ 130 เมตร พบศพเป็นชายนอนเสียชีวิต 2 ศพ ศพแรกคือ นายธวัชชัย หรือ จิว รักษากุล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ต.หนองกุ่ม นอนหงายเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง เลขทะเบียน กมท 282 กาญจนบุรี ที่จอดตั้งขาตั้งอยู่ สภาพศพถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกทะลุหลัง ในมือซ้ายกำไฟแช็กแน่น ใกล้ศพพบโทรศัพท์และกุญแจของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตกอยู่

...
ส่วนอีกศพคือ นายเสกสันต์ รูปสม หรือ เข ท่าแจง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 6 ต.หนองกระทุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี สภาพศพนอนหงายถูกยิงเข้าข้างแผ่นหลัง 8 รูฝังใน เสียชีวิตห่างศพแรกประมาณ 3 เมตร นอกจากนี้ยังมีหมอนรองกระสุนลูกซองเบอร์ 9 ตกในที่เกิดเหตุ 2 ชิ้น เสียชีวิตมาประมาณ 8-9 ชั่วโมง จากนั้นจึงได้มอบศพให้ทางสมาคมมูลนิธิกู้ภัยบ่อพลอยนำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อทำการชันสูตรหาวิถีกระสุนอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.40 น. นายเสกสันต์ หรือ “เข ท่าแจง” นั่งกินข้าวกับครอบครัวที่บ้านพัก ต่อมาได้รับโทรศัพท์จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจานบ้านและหายตัวไป จนทราบข่าวว่าถูกยิงเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งสาเหตุการถูกยิงเสียชีวิตครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น คือ แก้แค้นส่วนตัว และขัดผลประโยชน์
นายสมชัย รักษากุล อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอยได้ดูศพในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า นายธวัชชัย เป็นหลานชาย ประกอบอาชีพทำธุรกิจโรงสีข้าวในหมู่บ้านต่อจากบิดา ส่วนตนเองไม่ได้อยู่ด้วย โดยไปอยู่ในอำเภอท่าม่วง เมื่อทราบข่าวหลานจึงได้เดินทางมาดู ไม่ทราบพฤติกรรมของหลานชายว่าไปมีปัญหาอะไรกับใคร เพราะอยู่กันคนละที่ ส่วนพ่อของเขาได้เสียชีวิต โดยทิ้งโรงสีข้าวไว้ให้ได้ประกอบอาชีพ นานๆ ตนจะเดินทางไปดูกิจการสักครั้ง
ด้าน นายตุ๋ย ปานเปีย สัปเหร่อของวัดทุ่งมะสัง เป็นผู้พบศพคนแรก ได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ได้เดินทางออกจากบ้านมาเมื่อประมาณช่วงฟ้าสาง เพื่อไปดูนาข้าวใกล้กับจุดพบศพ ตอนแรกไม่คิดว่าตาย จึงเดินเข้าไปเรียก พร้อมใช้มือไปจับรู้ว่าตัวแข็ง จึงได้ออกไปแจ้งกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตอนแรกไม่ทราบว่าทั้ง 2 เป็นใครจนมาทราบภายหลังว่าทั้ง 2 คือคนในหมู่บ้าน
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี เผยว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุและลงพื้นที่ทราบว่า นายเสกสันต์ หรือ “เข ท่าแจง” มีประวัติเคยต้องคดียาเสพติด ครอบครองยาบ้า 8 เม็ด ต้องโทษจำคุก เพิ่งพ้นโทษประมาณเดือนกว่าที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 2 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าวว่า ติดต่อโทรศัพท์กับใครในช่วงขณะนั่งกินข้าว แล้วมาเสียชีวิต
"ผู้ตายทั้ง 2 คน น่าจะมีการหยุดพูดคุยอะไรกันสักอย่าง เนื่องจากกุญแจรถถูกถอดออกจากตัวรถ และผู้ตาย 1 คน กำไฟแช็กแน่นก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต และคาดว่าผู้ก่อเหตุรู้จักกับผู้ตายดี"
ส่วน พ.ต.อ.สมเกียรติ เพ็ญศิริสมบูรณ์ ผกก.สภ.บ่อพลอย กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว โดนเฉพาะในส่วนของนายเสกสันต์ หรือ “เข ท่าแจง” เคยถูกชุดสืบสวน สภ.บ่อพลอย จับกุมดำเนินคดียาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาไม่นาน ซึ่งเราให้น้ำหนักในประเด็นนี้ แต่ไม่ตัดประเด็นในส่วนความขัดแย้งส่วนตัว รวมถึงได้สืบสวนในเรื่องการติดต่อสื่อสารต่างๆ ก่อนเกิดเหตุมีการติดต่อกับใครที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตหรือไม่ คงใช้เวลาไม่นาน น่าจะได้เบาะแสคนร้าย.