แม่ใน จ.นครปฐม พาลูกสาวไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการตาแดง หมอให้ยาหยอดตากลับมา แต่หยอดแล้วกลับตาบวมและมีเลือดออก ไปหาหมออีกรอบก็ไม่หาย...

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 12 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุหญิงสาวคนหนึ่งพาลูกสาววัย 10 เดือน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เนื่องจากมีอาการตาแดง โดยหมอให้ยาหยอดตาแล้วให้กลับบ้าน ปรากฏว่าเมื่อหยอดตาไปแล้ว อาการของเด็กกลับหนักขึ้น ถึงกับมีเลือดออกในตา ตาบวมปูดเขียวช้ำ ผู้เป็นแม่จึงรีบพาไปหาหมออีกครั้ง ซึ่งหมอเปลี่ยนยาหยอดตาให้แต่ผลก็เหมือนเดิม ลูกสาวยังมีอาการเจ็บปวดแถมมีเลือดไหลออกมาจากตามากกว่าเดิม ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านใน ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านดังกล่าวและได้พบ น.ส.อนุวรรณ ศรีบุญ อายุ 23 ปี กำลังอุ้มบุตรสาวเดินอยู่หน้าบ้าน เมื่อดูอาการของเด็กสาวที่อุ้มอยู่ พบว่าเด็กหญิงยังมีอาการตาด้านขวาบวมแดง เลือดไม่ไหลแล้ว แต่เด็กยังมีอาการเจ็บปวดและร้องไห้อยู่ น.ส.อนุวรรณ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2562 ได้พาบุตรสาวไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม พร้อมกับพ่อเด็ก เพราะเห็นว่าเด็กเป็นตาแดง นั่งรอหมอสักครู่หมอก็เดินมาดูอาการเด็ก โดยไม่ได้เรียกเข้าไปตรวจดูเลย และได้สั่งยาเป็นยาหยอดตา กล่องสีฟ้า ชื่อ โพลี่ อ๊อฟ ให้ไปหยอดตาที่บ้าน ซึ่งยาดังกล่าวตนเองยังเก็บไว้ เมื่อกลับมาบ้านก็ทำการหยอดตาให้กับลูก แต่ปรากฏว่าเมื่อหยอดไปแล้วสักครู่ลูกกลับมีอาการร้องเจ็บปวด ตาบวมปูดช้ำ พอวันรุ่งขึ้นอาการในตาของเด็กยิ่งบวมและช้ำมากขึ้นแถมยังมีเลือดไหลออกจากตา เด็กก็ยังร้อง รอดูอาการจนในวันที่ 9 ก.ค. 2562 ในช่วงบ่ายเห็นลูกร้องเจ็บปวดทนไม่ได้ ก็รีบพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง เพื่อสอบถามและให้แพทย์ดูอาการว่าเด็กเป็นอะไร ทำไมลูกร้องเจ็บปวดและตาบวมปูดขึ้นเรื่อยๆ แถมมีเลือดไหลออกมาจากดวงตา หมอก็ไม่บอกอะไรเพียงแต่สั่งเปลี่ยนยามาให้ใหม่ ครั้งนี้ให้ยาฆ่าเชื้อ TOBREX แล้วก็ให้กลับบ้านมาหยอด น.ส.อนุวรรณ เล่าต่อว่า เมื่อหยอดตาด้วยยาตัวใหม่ อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ยังมีเลือดไหลอยู่ แต่ครั้งนี้กลับมีน้ำเหลืองผสมเลือดไหลออกมาด้วย แต่เพราะตนเองก็ไม่รู้เรื่องแพทย์ เลยดูอาการ 1 คืน รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาดูอาการของลูกก็ยังเหมือนเดิม มีเลือดผสมกับน้ำเหลืองไหลออกมา เลยคิดว่าไม่ดีแน่แล้วรีบพาไปหาหมอคลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมือง พร้อมกับนำยาที่โรงพยาบาลให้เอาไปให้แพทย์คลินิกดูด้วย แพทย์คลินิกเมื่อดูยาแล้วบอกกับตนเองว่า ยา 2 ตัวนี้ เป็นยาที่ใช้สำหรับหยอดผู้ใหญ่ไม่ใช่หยอดให้เด็ก เพราะตาของเด็กมีความอ่อนไหวมากกว่าของผู้ใหญ่ จึงทำให้ยาเข้าไปกัดลูกตาและมีเลือดออกมา ตนเองจึงให้แพทย์คลินิกรักษา จนเด็กอาการดีขึ้น เลือดที่ออกจากตาหยุดไหลแล้วอาการบวมช้ำเริ่มลดลง นางอนุวรรณ ยังนำภาพถ่ายที่ตอนเลือดไหลที่ตาออกมาให้ดูพร้อมยืนยันไม่ใช่เรื่องโกหก หรือต้องการเรียกร้องอะไรจากหมอโรงพยาบาล และจะไม่พาลูกไปหาหมอโรงพยาบาลอีก น.ส.อนุวรรณ ยังกล่าวเตือนทางโรงพยาบาลและแพทย์ ว่าก่อนที่จะรักษาคนไข้ขอให้ตรวจก่อนให้ละเอียดก่อนที่จะจ่ายยา ไม่ใช่ไม่ตรวจเพียงแค่ดูอาการแล้วจ่ายยา หากบุตรสาวของตนเกิดเสียชีวิตขึ้นใครจะมารับผิดชอบ ขอให้ลูกของตนเป็นอุทาหรณ์ให้ทางโรงพยาบาลและแพทย์ตรวจดูอาการให้เรียบร้อยก่อนที่จะจ่ายยาแล้วให้กลับบ้าน ไม่อยากให้ลูกของคนอื่นที่มารักษาเป็นเช่นลูกของตน

...