แม่ 1 พร้อมลูกอีก 3 คนขับเก๋งยาริสข้ามทางรถไฟหน้าวัดกาหลง สมุทรสาคร พขร.เห็นท่าไม่ดี เปิดหวูดแล้ว แต่เหมือนจะไม่ได้ยิน เตรียมพร้อมเบรก แล้วรถเก๋งก็ตัดหน้า ชนกันสนั่น ชาวบ้านวิ่งมาช่วยทุบกระจก ยังดีแค่บาดเจ็บ
เวลา 17.30 น. วันที่ 9 ก.ค. พ.ต.ต.สุชาติ สมบูรณ์ สารวัตรเวร สภ.บางโทรัด รับแจ้งเหตุรถไฟชนกับรถเก๋ง มีคนบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนเลียบทางรถไฟหมู่ที่ 3 ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
พบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 8 กว 6036 กรุงเทพมหานครประตูนั่งฝั่งซ้ายยุบ เสียหายทั้งคัน รถอยู่ในสภาพขวางทางรถไฟ คนในรถ 4 คน มีนางสาคร สำราญ อายุ 37 ปี เป็นแม่ และลูกๆ อีก 3 คนคือ เด็กหญิงณิชานันท์ เดชผล อายุ 8 ปี เด็กหญิงฉัตราภรณ์ ชื่นใจ อายุ 5 ปี และเด็กชายกมลภพ ชื่นใจ อายุ 8 เดือน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาชัย 1 ทุกคนอาการปลอดภัย ส่วนคู่กรณีรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง กันชนหน้าหลุด ท่อลมหัก
...
จากการสอบถาม นายมานิตย์ เศรษฐีชัยชนะ พขร.บอกว่า ขณะรถไฟวิ่งผ่านสะพานมาแล้ว รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับตีคู่มา และจะเลี้ยว ลักษณะเหมือนจะชะลอ แต่กลับขับตัดข้ามทางรถไฟ ตนเองก็เปิดหวูด และทำการค้ำล้อหรือเตรียมพร้อมเบรก แต่แม้จะเปิดหวูด ตนก็ไม่ทราบว่าคนขับรถเก๋งนั้นเปิดเพลงในรถหรือเปล่า ถึงไม่ได้ยินเสียงเตือน จากนั้นได้ขับตัดข้ามทำให้มาชนกับรถไฟจนบาดเจ็บ
ขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยตรงบริเวณจุดเกิดเหตุบอกว่า ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนของรถไฟจึงหันไปดู ก็เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาจากถนนเลียบทางรถไฟวัดกาหลง หรือจากซอย 5 เพื่อจะตัดข้ามทางรถไฟเข้าไปในโรงงานไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์โครงการกาหลง 3 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางรถไฟ
"จังหวะเดียวกันนั้นก็ไม่คิดว่ารถเก๋งจะขับข้ามตัดทางรถไฟขึ้นมา ทำให้รถไฟชนเข้าอย่างจังเสียงดังโครม ได้ยินเสียงเด็กร้องรีบวิ่งไปดู พบคนขับซึ่งคาดว่าเป็นแม่ ช่วงแรกหมดสติ สักพักก็ขยับตัวขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย สายตาพยายามมองหาลูกน้อย ก็บอกไปว่าเด็กทุกคนปลอดภัยดีไม่ต้องเป็นห่วง เด็กหญิงร้องขอความช่วยเหลือ เด็กชายซึ่งมีอายุน้อยที่สุดก็ติดอยู่ในซากรถ จึงรีบวิ่งกลับไปเอาค้อนที่บ้านเพื่อจะมาทุบกระจกช่วยเเด็กๆ ออกมาก่อน เจ้าหน้าที่รถไฟบอกว่าห้ามทุบ แต่มองแล้วว่าถ้าปล่อยไว้ อาจจะไม่ทันการ ไม่ได้ห่วงว่าจะไปทำลายทรัพย์สินเขาเสียหาย ขอช่วยเด็กให้ได้ก่อน ซึ่งตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดที่มือด้วย".