ภ.1 รวบยกแก๊ง "คิ้วยักษ์"ยกก๊วน 9 รายร่วมกันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์หลายครั้ง ก่อนจะนำไปขายแล้วนำเงินที่ได้แบ่งกัน เที่ยวเตร่ โดยจับได้ขณะปาร์ตี้วันเกิดสาวในแก๊ง นอกจากนี้ผบช.ภ.1 พร้อมตำรวจสมุทรปราการออกกวาดล้างเด็กแว้นยึดรถกว่า 200 คัน และจับเยาวชนได้ 57 ราย...

เมื่อเวลา 00.01 น.วันที่ 22 มิ.ย.61 ที่หน้า สภ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย ผู้กำกับในสังกัด ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างผู้กระทำผิดแข่งขันรถจักรยานยนต์ยนต์ในทางสาธารณะ ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ เขตรอยต่อพื้นที่นครบาล โดยตรวจยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งได้ 200 คัน ผู้กระทำผิด ทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน รวมกว่า 57 ราย นอกจากนี้ในวันนี้ยังได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติในการตรวจวัดระดับท่อไอเสียเกินค่ามาตรฐาน และตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐานในพื้นที่ยึดท่อไอเสียได้ จำนวนกว่า 20 ใบ 

ทั้งนี้ พล.ต.ท.อำพล ยังได้แถลงจับกุมคดีแก๊งก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์รายสำคัญซึ่ง ก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย 1.นายภาคิน ภูษิตวณิช อายุ 19 ปี 2.นายก้องเกียรติ สุคนธสิงห์ อายุ 21 ปี 3.นายกฤษดา สำราญอยู่ อายุ 20 ปี 4.น.ส.ดวงรัตน์ ยืนสุข อายุ 20 ปี 5.นายสมคิด สอาด อายุ 23 ปี 6.นายกฤษฎา กาแก้ว อายุ 20 ปี 7.นายเทคนิค ทิพยกรรณ์ อายุ 20 ปี และเยาวชนอายุ 15 ปี อีก 2 คน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน 

...

พฤติกรรมกล่าวคือ สืบเนื่องจากได้มีคนร้ายตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในหลาย พื้นที่ ทั้งใน จ.สมุทรปราการ และใกล้เคียง โดยใช้ชื่อว่าแก๊ง "คิ้วยักษ์" โดยเป้าหมายนั้นจะเป็น รถจักรยานยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะรุ่น ยามาฮ่า R15 และ ฮอนด้าเวพ 110 หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ และ สภ.บางพลี จึงแบ่งกำลังแกะลอยตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี กระทั้งวันที่ 20 มิ.ย.สืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาแก๊งนี้ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ ย่านบางแสน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปจับกุมทั้งหมดเอาไว้ได้ ขณะกำลังเลี้ยงสังสรรค์งานวันเกิด ของ น.ส.ดวงรัตน์ ยืนสุข ผู้ต้องหาหนึ่งในแก๊งคิ้วยักษ์ ก่อนคุมตัวมาสอบสวนและขยายผล ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

ทั้งนี้กลุ่มผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์จริง โดยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในพื้นที่ สมุทรปราการ และใกล้เคียง ก่อนที่จะนำรถจักรยานยนต์ไปจำหน่ายให้กับนายทุนซึ่งมารับซื้อในราคาคันละ 1 หมื่นบาท ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปแบ่งกันใช้จ่ายเที่ยวเตร่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เร่งขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป