ตำรวจทับสะแก จับผู้ต้องหาฆ่าเผานั่งยางในสวนมะพร้าวแล้ว พบปมตามทวงหนี้ค้างค่ายาเสพติด 4 ล้านบาท โดยมีเอเย่นต์ใหญ่ประเทศลาวสั่ง พอทวงไม่ได้คนร้ายเลยบันดาลโทสะลงมือฆ่า

กรณีพบกระดูกและฟัน ที่สวนมะพร้าว ของ น.ส.ปราณี รอดไข อายุ 63 ปี ชาวบ้านในซอยวัดถ้ำจันทร์ หมู่ 2 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ถูกเผาด้วยล้อรถยนต์จำนวน 4 เส้น ที่กลางสวนมะพร้าวเหลือเพียงเศษกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อย และฟันจำนวน 3 ซี่

ล่าสุด ตำรวจควบคุมตัว นายยศพัทธ์ หรือ หนู พ่วงเพชร อายุ 37 ปี อยู่บ้านที่อำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี และนายณรงค์ หรือ บอย รอดเจริญ อายุ 32 ปี ชาวอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.154/2562 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2562 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ และร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพเพื่ออำพรางคดี จับกุมนายณรงค์ได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 86 ถนนสุทธิมรรค ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองจังหวัดมุกดาหาร และนายยศพัทธ์ได้ที่กรุงเทพมหานคร

สำหรับเบาะแสการสืบสวน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามพยานแวดล้อมละแวกที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องสงสัยที่มาซื้อน้ำมันเบนซินเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงเผาศพ จากนั้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เห็นภาพรถยนต์คันต้องสงสัย จึงได้แกะรอยทะเบียนรถถึงผู้ครอบครอง ทราบว่าผู้ต้องหาเดินทางเพื่อไปติตต่อเอเย่นต์ จากนั้นได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร และตำรวจนครบาล เข้าจับกุม พร้อมรถเก๋งฮอนด้า สีแดง ทะเบียน กร 9752 กรุงเทพมหานคร พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. ภายในรถเก๋ง และสืบทราบจากนางเพ็ญศรี คงคำ มารดาของนายสหภาพ หรือ ต้อย คงคำ อายุ 45 ปี ผู้ตาย ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.คลองอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เวลา 12.00 น. พร้อมรถกระบะ 8 กฒ 8870 กรุงเทพมหานคร

...

จากนั้น พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่สวนมะพร้าวของ น.ส.ปราณี รอดไข อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ซอยวัดถ้ำจันทร์ หมู่ 2 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันเกิดเหตุได้นัดผู้ตายมานั่งพูดคุยเรื่องหนี้สินที่ค้างคาจำนวน 4 ล้านบาทบริเวณแคร่ไม้หน้าบ้าน จากนั้นนายยศพัทธ์ ได้บันดาลโทสะ หยิบท่อนไม้ฟาดเข้าที่กลางหลัง 1 ครั้ง จนผู้ตายล้มคว่ำหน้า ขณะเดียวกันที่ผู้ตายกำมือจะชก ทำให้นายยศพัทธ์กระหน่ำตีที่หลังศีรษะจนผู้ตายแน่นิ่ง หมดลมหายใจ

จากนั้นจึงให้นายณรงค์ช่วยลากศพโดยให้จับที่ขา ส่วนนายยศพัทธ์ ลากส่วนหัว ไปยังลานสวนหน้าบ้าน และนำเสื้อผ้าเก่าภายในบ้าน ทางมะพร้าวเป็นเชื้อไฟ นำยางล้อรถที่ในเกิดเหตุทั้งหมด 4 เส้น ด้วยนำศพมาวางไว้ตรงกลางระหว่างยางล้อ จากนั้นราดน้ำมันเบนซิน และจุดไฟเผา ระหว่างการทำแผนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เหมือนกัน โดยพนักงานสอบสวนได้บันทึกทำสำนวนในการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป

ภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ไหว้บริเวณจุดเผาศพขอขมา และนายณรงค์บอกว่าจะบวชให้ ส่วนนายยศพัทธ์คนใช้ท่อนไม้ตี บอกขอชดใช้กรรมที่ก่อ ออกจากคุกเมื่อไหร่จะคิดอีกทีว่าจะทำอะไรบ้าง

พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทั้งสามรายรู้จักกัน จากการติดคุก เมื่อออกมา ได้ร่วมกันรับส่งยาเสพติดโดยรับมาจากประเทศลาว ซึ่งผู้ตายได้ค้างค่ายาเสพติดประมาณ 4 ล้านบาทจากเอเย่นต์ใหญ่ในประเทศลาว นายยศพัทธ์รับยามาส่งให้นายสหภาพอีกที่หนึ่ง กระทั่งถูกทวงถามบ่อยครั้ง จึงทำให้ต้องทวงหนี้สินเก่าที่คงค้างไว้ โดยนายยศพัทธ์นัดนายสหภาพเพื่อมาเคลียร์หนี้เก่า แต่เมื่อไม่สามารถตกลงได้ จึงบันดาลโทสะ เพื่อฆ่าล้างหนี้.

...