คุมตัว "ไอ้แป๊ก" ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอหนุ่มกู้ภัยฯ ฝากขัง สภ.เขาฉกรรจ์ ก่อนลงบันทึกจับกุม พร้อมคุมตัวชี้จุดทิ้งหลักฐานก่อเหตุ โดยไม่มีการทำแผน หวั่นรุมประชาทัณฑ์ คาดสามารถนำตัวฝากขังต่อศาลได้ 8 มิ.ย.นี้ ขณะที่ผู้ต้องหาเปิดปากเหตุลงมือ เพราะถูกตบหน้าก่อน

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีฆ่าปาดคอหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้ว บริเวณด้านหน้าผับชื่อดังในพื้นที่ตลาดวังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ภายหลังตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสามารถ ทะสูงเนิน หรือ แป๊ก อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อบ่ายวานนี้ (6 มิ.ย.) แต่ยังไม่สามารถนำผู้ต้องหามาลงบันทึกจับกุมและแถลงข่าวที่ สภ.วังน้ำเย็น ท้องที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากมีญาติของผู้เสียชีวิตและเพื่อนหน่วยกู้ภัยฯจำนวนมาก มารอดูหน้าผู้ต้องหา เกรงว่าจะเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้น อีกทั้งตำรวจยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นหาหลักฐานอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ชุดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใส่ในวันก่อเหตุด้วย จึงยังไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาที่สถานีตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทีมสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ห่างจากท้องที่เกิดเหตุประมาณ 20 กม.เป็นการชั่วคราวก่อน กระทั่งช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ตำรวจได้รับตัวผู้ต้องหาเพื่อลงบันทึกจับกุม ก่อนจะคุมตัวไปตรวจค้นหาหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุเพิ่มเติม โดย พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ เนื่องจากผู้ต้องหาแจ้งความประสงค์ไม่ขอทำแผน จึงจะยังไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจนกว่าจะได้หลักฐานครบถ้วน

...

ร.ต.อ.ยศ ชาสมบัติ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.วังน้ำเย็น ได้รับลงบันทึกจับกุม นายสามารถ เพื่อเริ่มกระบวนการสอบสวนตามกฎหมายแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ไม่เกิน 48 ชม. และได้เดินทางลงพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้ต้องหา ที่ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เพื่อสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ก่อนจะนำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รถยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนี และหลักฐานอื่นๆ ให้ครบถ้วน ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถนำผู้ต้องหาส่งศาลฝากขังได้ในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.นี้

ต่อมา เวลา 12.00 น.นางธำรงลักษณ์ คงเสือ อายุ 42 ปี ภรรยาของ นายบริบูรณ์ ปัทมะชัยวัฒน์ และน้องสาวของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อขอรับเอกสารการตาย และเปิดเผยว่า คนตายเป็นผู้รับเคราะห์แทนเพื่อน ซึ่งมือกลองของร้าน ยอมรับกับตนเองว่า เป็นคนตบหน้าผู้ต้องหาเอง จนเป็นเหตุให้มีการฆ่าปาดคอดังกล่าว เนื่องจากวันที่มีการนำศพคนตายเข้าสู่เมรุเผาศพ น้องซึ่งเป็นนักดนตรีของผับดังกล่าว ได้มาขอขมาและรับสารภาพกับตนว่า เป็นคนลงมือตบหน้าผู้ต้องหาเอง แต่คนตายต้องมารับเคราะห์แทน และอยากให้ไปขอขมาศพแฟนตนซะ จะได้ไม่เข้าใจผิดเป็นเวรเป็นกรรมกันตลอดไป

สอดคล้องกับคำให้การของ ผู้ต้องหา ที่ให้การภายหลังถูกจับกุมว่า มูลเหตุของการฆ่าปาดคอครั้งนี้ เกิดจากบันดาลโทสะ ทะเลาะวิวาทกันซึ่งหน้า หลังถูกกลุ่มคนตายตบหน้า ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ลวนลามผู้หญิงในร้าน ซึ่งเมื่อร้านเลิกทางคนตายพร้อมพวกพยายามที่จะออกมาตามหาคนที่พูดว่า จะเอาปืนไปยิงการ์ดที่ตบหน้า หนุ่มที่ลวนลามสาวในร้านให้ได้ ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง และชายกลุ่มนั้นซึ่งมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์รวมอยู่ด้วย ได้ขับรถกลับบ้านไปแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้ตายซึ่งอ้างว่าเป็นการ์ดของผับ พยายามจะปิดประตูบริเวณที่จอดรถไว้ไม่ให้ใครออกไป เพื่อจะหากลุ่มคนที่พูดว่าจะเอาปืนไปยิงการ์ดให้ได้ กระทั่งมีการโต้เถียงกันและถูกตบหน้า จึงลงมือก่อเหตุฆ่าปาดคอแบบซึ่งหน้าทันที ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่า ถูกคนตายตบหน้าจึงก่อเหตุดังกล่าวก่อนจะหลบหนี

"ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจทำ จนถึงให้เขาตายหรอก ก็คือความโมโหของผม ผมก็เมาออกมาด้วย และผมรับไม่ได้ ที่มีความรุนแรงต่อหน้าผม ผมก็เลยทำอย่างนั้นลงไป ก็เสียใจแต่มันกลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็อยากขอโทษทั้งญาติของผู้ที่เสียชีวิต แม้เขาจะไม่อโหสิกรรมให้ผม ก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งผลกรรมที่ผมทำ มันก็มากอยู่แล้ว" ผู้ต้องหา กล่าว

 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป