ไล่ตะครุบยกแก๊ง 5 พรานป่าชาวกะหร่าง หลังแบกปืนแก๊ปออกล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ผงะเจอซากค่างรมควันซุกถุงปุ๋ยอื้อ พร้อมน้ำผึ้งป่า และอุปกรณ์ล่าสัตว์จำนวนมาก เชื่อไม่ได้ฆ่าไปกินตามวิถีชาวบ้าน แต่น่าจะนำไปขายให้นายทุนร้านอาหารป่า เร่งส่งซากพิสูจน์หวั่นเป็น “ค่างแว่นถิ่นใต้” สัตว์ป่าคุ้มครองที่ใกล้สูญพันธุ์
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมกลุ่มพรานล่าสัตว์ป่า 5 คน ขณะออกไล่ล่าเหยื่อได้ของกลางทั้งน้ำผึ้งป่า ค่างรมควัน และอุปกรณ์ในการล่าสัตว์จำนวนมากครั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ค. ได้ส่งกำลัง เจ้าหน้าที่สายตรวจ กจ.5 ชุดที่ 2, 3 และ 4 ร่วมกัน ออกลาดตระเวนตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้และสัตว์ป่า พื้นที่บริเวณป่าบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ท้องที่หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขณะ มาถึงพิกัดที่ 0550850 E 1402675 N ได้ตรวจพบบุคคล 5 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน บนหลัง แบกถุงปุ๋ย เดินมุ่งหน้าออกจากป่า เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจสอบถุงปุ๋ยที่แบกมา
ตรวจสอบพบน้ำผึ้งป่าบรรจุถุงพลาสติก 5 ถุง ซุกอยู่ในถุงปุ๋ย 1 ถุง ส่วนในถุงปุ๋ยใบอื่นยังพบซากสัตว์ป่า เป็นซากค่างรมควันชำแหละซุกซ่อนอยู่รวม 27 ชิ้น ซากสัตว์ขี้เพลี้ยส้ม จำนวน 1 ถุง เม็ดตะกั่ว ลูกปืนแก๊ป 72 เม็ด ดินปืน 2 ขวด มีดพก 3 เล่ม ไฟฉายคาดหัว 4 อัน เปลสนาม 3 ผืน ส่วนปืนแก๊ปที่ใช้ล่าสัตว์คาดว่าผู้ต้องหาได้นำไปหลบซ่อนไว้ขณะเตรียมออกจากป่า ทราบชื่อนายลาอี้ เวนะ อายุ 49 ปี นายเคเง สุขสิริโภคิน อายุ 43 ปี นายคิน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายทัย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนางเชอรี่ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 50 ปี ทั้งหมดเป็นชาวกะหร่าง อาศัยอยู่หมู่ 6 บ้านป่าเด็งใต้ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
...
พฤติกรรมทั้ง 5 คน กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 เจ้าหน้าที่เชื่อว่าไม่ได้ล่าไปบริโภคตามวิถีชาวบ้านป่า แต่น่าจะล่าไปขายให้กับนายทุนค้าซากสัตว์ป่าและร้านอาหารป่า นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ดำเนินคดี สำหรับซากค่างรมควันที่ยึดได้ จะส่งไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็น “ค่างแว่นถิ่นใต้” สัตว์ประจำถิ่นที่พบได้ในป่าแก่งกระจานหรือไม่ เนื่องจากค่างสายพันธุ์นี้มีลักษณะสวยงาม และอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ในความเชื่อของนักเปิบพิสดารมีความเชื่อที่ผิดๆว่าเลือดของค่างจะใช้ละลายดื่มกับสุราเป็นยาบำรุงกำลัง โดยเฉพาะถุงนํ้าดีของค่างสามารถปรุงเป็นยาได้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีผลพิสูจน์ในทางการแพทย์ อย่างไร ก็ตาม การบริโภคเลือดและอวัยวะสัตว์ป่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อและก่อให้เกิดโรคได้