เมียนั่งรถสองแถวผ่านหลังห้องพัก ช็อกพบผัวผูกคอดับริมระเบียง คาดมีปัญหาครอบครัวบ่อยจนเกิดอาการน้อยใจ พร้อมเขียนจดหมายสั่งลา "พ่อรักลูกนะครับ"...
วันที่ 8 มี.ค. 62 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ผูกคอเสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างหนุ่มวัย 25 ปี บ้านอยู่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นชาวไทใหญ่ ผูกคอดับบริเวณราวตากผ้า และบริเวณขอบริมระเบียงมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงสีทอง วางตั้งพิงผนังอยู่ในลักษณะคล้ายจะโทรวิดีโอคอล ขณะที่ภายในห้องพักไม่พบการรื้อค้นทรัพย์สินหรือการต่อสู้แต่อย่างใด
ขณะที่พบเพียงสมุดปกอ่อนสีฟ้าบนที่นอน ภายในพบข้อความของผู้ตายเขียนสั่งลาไว้ใจความว่า "ถ้าหลังกูตาย ส่งกระดูกกูกลับบ้านด้วย แล้วบอกพ่อกูด้วยว่ากูขอโทษ ขอให้เขาเก็บกระดูกไว้ จะกลับบ้าน บอกเขาว่าขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญา และก็ฝากเขาดูแลน้องด้วย ขอโทษทุกคนที่รัก" เมื่อพลิกอ่านอีกหน้าหนึ่งซึ่งผู้ตายเขียนถึงลูกมีใจความว่า "พ่อรักลูกนะครับ เมื่อลูกโตขึ้นลูกจะเป็นเซียนตกปลา พ่อรักหนูครับ" ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม ภรรยาผู้ตาย อายุ 23 ปี ให้การว่า อยู่กับผู้ตายมาแล้ว 6-7 ปี โดยมีลูกชายเป็นพยานรัก 1 คน ซึ่งโดยปกติผู้ตายเป็นช่างรับเหมาต่อเติมบ้านทั่วไป กระทั่งช่วงหลังมานี้ได้มีปากเสียงกับผู้ตายบ่อยครั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องครอบครัว จนกระทั่งตนได้หอบเสื้อผ้าอุ้มลูกไปพักอาศัยกับพี่ชาย ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ในระยะเวลาที่ห่างกันมา 3-4 เดือน ตนยังคงแวะเวียนไปมาหาสู่กับผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังมีเรื่องทะเลาะกันเรื่อยมาและผู้ตายยังเคยขู่จะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ตนห้ามปรามไว้ได้
...
กระทั่งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ผู้ตายได้พยายามโทรศัพท์หาหลายสายแต่ไม่ได้รับ จนช่วงเช้าที่ผ่านกำลังนั่งรถสองแถวโดยสารไปทำงาน โดยรถจะวิ่งผ่านหลังห้องของผู้ตาย ได้เงยหน้ามองช่องระเบียงพบผู้ตายยืนอยู่แต่ด้วยความสงสัยว่าผู้ตายยืนไม่ขยับตัว จึงได้รีบลงรถวิ่งขึ้นไปบนห้องซึ่งคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น พอเข้าไปดูพบว่าผู้ตายผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรศัพท์บอกพี่ชายพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายมีปากเสียงกับภรรยาบ่อยครั้งจนเกิดอาการน้อยใจเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ก่อนเชิญตัวภรรยาและคนใกล้ชิดไปสอบสวนเพิ่มตามเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.