ผัวเมียที่ปทุมธานี ไปโรงพักรับเงิน 1 หมื่นบาท ที่เตรียมไว้เป็นค่าเทอมลูกแต่เผอเรอโยนทิ้ง หนุ่มในภาพที่เป็นคนเก็บได้จากถังขยะหน้าห้างฯ นำมามอบไว้กับตำรวจ เจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ แต่ตำรวจบอกจะส่งฟ้อง

กรณีเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 62 ที่ผ่านมา นายพิสัณห์ แสงจันทร์ อายุ 41 ปี และ น.ส.หิรัญญา วินัยปกรณ์ อายุ 41 ปีสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 59/59 ม.3 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ทั้งคู่เป็นพนักงาน บ.วิริยะคาร์บอดี้ เซอร์วิส จก. ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิเชษฐ ปฤกษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ที่เก็บเงินค่าเทอมของลูกสาวตนจำนวน 10,000 บาท ที่ตนเองทำเผอเรอ นำไปทิ้งในถังขยะของห้างเทสโก้โลตัส แล้วไม่นำมาคืน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ก.พ.โดยตำรวจ ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายต้องสงสัยนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อโปโล รูปร่างท้วม 

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 21 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิสัณห์ แสงจันทร์ พร้อม น.ส.หิรัญญา วินัยปกรณ์ ภรรยา เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.เมืองปทุมธานี หลังได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.สมยศ คำจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) ว่าให้มารับเงินสดจำนวน 10,000 บาทคืน เนื่องจากมีชายคนที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ (ขอสงวนชื่อ) อายุ 38 ปี ชาว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง นำเงินสดมาคืนให้แล้ว แต่เมื่อเจ้าทุกข์ทั้งคู่เดินทางมาถึงโรงพัก กลับไม่พบ พ.ต.ท.สมยศ คำจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) และไม่พบคนที่นำเงินมาคืน พบเพียง พ.ต.ท.สัญชัย เมธีวิวัฒน์ สว.สอบสวน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ กล่าวว่า รอง ผกก.ฝากเงินไว้ ให้เจ้าทุกข์รับเงินและเซ็นรับทราบเอกสารต่างๆ ที่เตรียมไว้

...

นายพิสัณห์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและภรรยาดีใจมาก ที่วันนี้ขณะกำลังประชุมอยู่ ตำรวจโทรมาบอกตนว่าให้มารับเงินคืน ซึ่งจริงๆ แล้วตนก็อยากจะเจอกับคนที่เก็บเงินและนำมาคืน เพื่อจะขอบคุณเขาด้วย แต่มาแล้วไม่เจอ แต่ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่ช่วยเหลือ จนได้เงินค่าเทอมลูกคืนมาครบถ้วน และไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด ส่วนทางตำรวจจะดำเนินการอย่างไรตนไม่ทราบ แค่ได้เงินคืนมาก็ดีใจมากแล้ว และขอฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ว่า การที่เราเก็บสิ่งของใดๆ เพื่อจะนำไปทิ้งควรตรวจตราดูให้ดี ยอมรับว่าตัวเองสะเพร่าไม่ดูให้ดี จึงขอให้ตรวจดูให้ดีว่ามีของมีค่าหรือไม่ ก่อนจะนำไปทิ้ง จะได้ไม่เป็นแบบตน

ด้านชายที่นำเงินมาคืน กล่าวว่าในวันเกิดเหตุ ตนไปเดินหาซื้อของและกดเงินที่ห้างฯ ขณะกำลังจะกลับบ้าน เดินออกมาทางประตู เดินเอากระดาษสลิปกดเงินไปทิ้งในถังขยะทันใดนั้น ก็มองเห็นเงินอยู่ในถังขยะ จึงมองกล้องวงจรปิด ทีแรกคิดว่าเป็นเงินของผู้ค้ายาเสพติดหรือไม่ แต่เมื่อดูแล้วไม่เห็นมีใครมอง จึงก้มลงหยิบเงินใส่กระเป๋า ครั้งแรกตั้งใจจะนำไปให้ประชาสัมพันธ์ของห้างประกาศ แต่ก็เกรงว่ามีบุคคลมาอ้างตัวรับแทน จึงเดินออกมาด้านหน้าห้างเพื่อรอดูว่าจะมีใครมารื้อถังหาเงินก็จะนำไปคืน แต่ไม่พบ จึงกลับบ้านมาบอกกับคนที่บ้าน จนกระทั่งวันนี้ตนไปทำงาน ก็มีเพื่อนๆ ที่บริษัทฯพูดถึงเรื่องนี้ จึงรู้ว่าตำรวจ มีภาพวงจรปิดและกำลังติดตามตัวคนเก็บเงิน จึงมาแสดงความบริสุทธิ์และนำเงินมาคืน ส่วนเรื่องคดีนั้นเห็นว่าทางตำรวจ จะส่งฟ้องตน.