ป้าชัยนาท ยังเดินหน้าทวงเงินจากธนาคาร หลังเงินในบัญชีหายไป 8.5 หมื่น ยืนยันในบ้านไม่มีใครถอนไปแน่นอน ครวญตั้งใจเก็บไว้กินตอนแก่ ผัวก็ป่วยหนัก ล่าสุดธนาคารฯ เตรียมชี้แจ้งต่อหน้าอัยการ

จากกรณีที่ นางบังอร สิงห์โตทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.1 ม.1 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าว กรณีที่ บัญชีเงินฝากประจำของสามี ชื่อบัญชีนายทองดี อินทร์ยัง เปิดบัญชีฝากประจำตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน กับ ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาอ.เมืองชัยนาท จำนวนกว่า 2 แสนบาท แต่เงินหายล่องหนไป 85,000 บาทเศษ หายจากบัญชีอย่างไร้ร่องรอย และเป็นปริศนา

ทั้งนี้ นางบังอร ยืนยันว่า ที่บ้านตนไม่มีใครไปเบิกเงินเลย แต่พบมีการถอนออกจากบัญชีซึ่งเป็นชื่อของสามีไปแล้วจำนวน 11 ครั้ง เริ่มถอนตั้งแต่ปี 2554 ด้วยความที่สามีเชื่อใจ จึงไม่ได้ตรวจสอบอะไร แต่เมื่อไปถาม กลับถูกพนักงานขู่ว่าถ้าไปแจ้งความก็จะฟ้องกลับทันที ทำให้รู้สึกว่าถูกรังแก และไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จึงวอนให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงทวงความยุติธรรม และคืนเงินมาให้อยู่หมือนเดิม 

...

ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.พ. นางบังอร สิงห์โตทอง เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท พบกับ นางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อขอคำปรึกษาและหาข้อยุติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนหาเช้ากินค่ำ เงินฝากที่จะเก็บไว้กินตอนแก่ และรักษาสามีที่ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก ช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว เงินที่เก็บไว้กลับต้องมาสูญหายอย่างไร้ร่องรอย

ด้าน นางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เชิญทางธนาคารที่สามีนางบังอร เปิดบัญชีไว้มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น โดยทางธนาคารรับปากว่าจะมาในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง มีอัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิ มาเพื่อให้ความเป็นธรรม และเป็นตัวกลางในการเจรจาหาข้อยุติ คลายข้อสงสัยในเรื่องนี้