ตำรวจภาค 1 ตามลากคอ ยกแก๊ง “แก๊งแมวน้ำ” โจรกรรมข้าวสารบนเรือโป๊ะล่องแม่น้ำเจ้าพระยาจากปทุมธานีไปส่งเกาะสีชัง จับกุมผู้ต้องหาได้ 10 คน มีหนอนบ่อนไส้เป็นทั้งคนควบคุมเรือโป๊ะและคนขับเรือลาก ให้เพื่อนร่วมแก๊งขับเรือเล็กตามประกบขึ้นไปขโมยข้าวสารขนถ่าย ใส่รถบรรทุกไปบรรจุกระสอบใหม่เอาไปขายโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ ตามยึดข้าวสารของกลางคืนมาได้ 242 กระสอบ เชื่อก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เตือนผู้ประกอบการเฝ้าระวังผลกระทบการส่งออกสินค้า ทำลายความเชื่อมั่นต่างชาติและความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศ

แก๊งโจรกรรมสินค้าที่ขนส่งทางเรือหรือ “แก๊งแมวน้ำ” ถูกตามลากคอยกแก๊ง ที่ บช.ภ.1 เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.พ. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา แถลงจับกุม “แก๊งแมวน้ำ” หรือกลุ่มคนร้ายโจรกรรมสินค้าที่ขนส่งทางเรือ ผู้ต้องหา 10 คน ประกอบด้วย นายภาณุพงศ์ ไชยถา อายุ 23 ปี น.ส.ปิยะมาศ แป้นจั่น อายุ 27 ปี น.ส.สุนทรี แป้นจั่น อายุ 27 ปี นายประสิทธิ์ สุทธิบุตร อายุ 36 ปี นายธนันวัฒน์ บุณยทวีเกียรติ อายุ 56 ปี นายสมชาย สาแย้ม อายุ 67 ปี นายชูศักดิ์ สาแย้ม อายุ 56 ปี นายคมสัน ศรีเทพ อายุ 40 ปี นายดำรัส ดวงแก้ว อายุ 37 ปี และนายสมพร ชัยยะวง ชาวลาว

ของกลางเป็นกระสอบบรรจุภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆ ประมาณ 1,000 ใบ จักรเย็บกระสอบ 3 เครื่อง ข้าวสาร 242 กระสอบ รถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน รถเข็นขนของ 9 คัน เรือชะล่า (เรือเหล็ก) ขนาดกว้าง 1.8 เมตร ยาว 7 เมตร ลึก 1.2 เมตร เรือชะล่า (เรือไม้) ขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 12 เมตร ลึก 1.5 เมตร และเครื่องยนต์ 2 เครื่อง แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม

...

พล.ต.ท.อำพลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. บริษัทในเครือกลุ่มธนสรรไรซ์ เจ้าของสินค้าข้าวสารและบริษัท วอเทอร์โบ๊ท จำกัด เข้าแจ้งความตำรวจสภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ว่า ข้าวสาร 378 กระสอบหายไปขณะขนส่งทางเรือ ระหว่างล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยาจาก อ.สามโคก ไปขึ้นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

จากการสืบสวนทราบว่า มีผู้ต้องหาที่ร่วมกันลักข้าวสารไปคือนายภาณุพงศ์ และ น.ส.ปิยะมาศ สองสามีภรรยาคนควบคุมเรือโป๊ะบรรทุกข้าวสารของผู้เสียหาย มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน ประกอบด้วย น.ส.สุนทรี นายหน้าติดต่อผู้รับซื้อ นายประสิทธิ์ หัวหน้าแก๊งติดต่อรับซื้อและคุมทีม นายสมชาย นายชูศักดิ์ สองพี่น้องเจ้าของเรือชะล่า ทำหน้าที่ขับเรือไปเทียบแล้วช่วยกันขโมยข้าวสารลงจากเรือโป๊ะ นายธนันวัฒน์ นายทุนและสั่งการ นายคมสัน คนขับรถบรรทุกขนข้าวสารที่ลักมาส่งเข้าโกดัง นายดำรัส คนขับเรือลากเรือโป๊ะบรรทุกข้าวสารของผู้เสียหาย และนายสมพร ผู้ช่วยของนายดำรัส หลังกลุ่มคนร้ายได้ข้าวสารมาแล้วจะนำไปยังโกดังที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อเปลี่ยนกระสอบใส่ก่อนนำไปจำหน่ายให้กับโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ในพื้นที่ จ.นครปฐม

ผบช.ภ.1 กล่าวต่อไปว่า ตำรวจสืบสวนภาค 1 สืบสวนจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ สภ.ช้างใหญ่ ร่วมกันประสานข้อมูลรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง มูลค่าความเสียหายครั้งนี้ 618,300 บาท ขอประชา– สัมพันธ์ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร น้ำตาล ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช หรือสินค้าอื่นๆ ที่ใช้เรือขนส่งสินค้าออกต่างประเทศให้ทราบถึงวิธีการของคนร้ายและเฝ้าระวังป้องกัน เนื่องจากคดีลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติและเพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้ทำมานานและหลายครั้งแล้ว ส่วนผู้ร่วมขบวนการและเกี่ยวข้องตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป