ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี เผยกรณีเงินยายหาย 7 หมื่นจากบัญชีธนาคาร และเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า โดนปิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเวลาศึกษาข้อมูล หลังไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน ด้านธนาคารสำนักงานใหญ่ กำลังสืบสวนข้อเท็จจริง...

จากกรณีคุณยายวัย 67 ปี ชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี หลังเงินในบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 72,222.67 บาท ถูกถอนออกไปจนหมด รวมทั้งยังมีเงินเข้าออกผิดปกติ โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าสมุดบัญชีถูกปิด ตามที่เสนอข่าวไปนั้น (อ่านข่าว : เงินยายหายไปไหน ถูกถอนออกจากบัญชีกว่า 7 หมื่นบาท)

...

ล่าสุด ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ ผกก. สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อประเด็นดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเวลาศึกษาข้อมูลก่อน เพราะกรณีเช่นนี้ เป็นความรู้ใหม่ และยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉะนั้น จึงต้องขอใช้เวลาในการศึกษาให้ถ่องแท้ ซึ่งธนาคารที่คุณยายฝากเงินนั้น มีการควบรวมธนาคาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ทราบว่า ทางธนาคารจะเก็บหลักฐานการเบิกจ่ายเงินอย่างไร และยังเก็บไว้อยู่หรือไม่ เนื่องจากคุณยายเปิดบัญชีตั้งแต่ปี 2549 หรือ 13 ปีที่แล้ว และเงินถูกถอนหมดบัญชีไปตั้งแต่ปี 2550 หรือ 10 ปีที่แล้ว

ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เงินที่หายไปอาจเป็นฝีมือลูกหลานของคุณยายเป็นผู้เบิกไปหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ประสาน กล่าวว่า คุณยายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เงินที่เก็บไว้ไม่มีใครรู้ ล่าสุด ร.ต.ต.หญิงสุพรรณี วรแสน กำลังทำหนังสือถึงผู้จัดการธนาคารธนชาต สาขาปราจีนบุรี เพื่อขอหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวกับตัวของ นางจันทนี หรทึก พร้อมชื่อพนักงานที่เกี่ยวข้องในวันที่มีการเบิกเงินไปจากธนาคารว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดเกี่ยวข้องบ้าง จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจะมีการตรวจสอบหลักฐาน พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนต่อไป

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ธนาคารธนชาต สาขาปราจีนบุรี เพื่อสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น โดยมีนายนิติพน วชิรวิทย์ ผู้จัดการธนาคารธนชาต สาขาปราจีนบุรี ชี้แจงกับผู้สื่อข่าว ว่า นางจันทนี หรทึก อายุ 67 ปี ได้เดินทางมาร้องเรียน ว่า บัญชีธนาคาร เลขที่ 700-2-16728-3 เงินหายไปจากบัญชี โดยไม่ทราบสาเหตุ และธนาคารได้ตรวจสอบเอกสารปรากฏว่ามีการถอนออกไปจากบัญชี โดยได้รับสำเนาเอกสารการถอน จากสาขาหนองเบน (สาขาที่เปิดบัญชี) ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่ใช่ลายมือของตนเอง จึงขอให้ทางธนาคารดำเนินการตรวจสอบและนำเงินมาคืน ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่า บัญชีดังกล่าวมีการทำธุรกรรมทางการเงินถึง 3 แห่ง โดยมีการฝากและเบิกเงินเป็นเงินสด ซึ่งจะได้ตรวจสอบจากเลขที่สาขาว่าเป็นสาขาใดบ้าง

...

ในเบื้องต้น ทางธนาคารธนชาต สาขาปราจีนบุรี ได้รับคำร้องและส่งเรื่องไปยัง ธนาคารธนชาต สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบหลักฐานเดิม ที่เป็นข้อมูลในช่วงของธนาคารนครหลวงไทย พร้อมดำเนินการสอบสวนลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ และลายมือชื่อของคนตรวจสอบหลักฐานก่อนเบิกเงิน ว่า เป็นใคร ซึ่งในเรื่องนี้น่าจะใช้เวลานาน เนื่องจากข้อมูลหลักฐานต่างๆ ผ่านมาประมาณ 10 ปีแล้ว ส่วนรายละเอียดทั้งหมดสำนักงานใหญ่กำลังดำเนินการอยู่

จากนั้น ทางทีมข่าว ได้ประสานไปยังธนาคารธนชาติ สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ ได้รับคำตอบว่า ณ ขณะนี้ทางธนาคารกำลังสืบสวนข้อเท็จจริง และธนาคารนครหลวงไทยที่คุณยายเปิดบัญชี ได้ควบรวมกิจการเข้ากับธนาคารธนชาตตั้งแต่ปี 2554 แล้ว.