คดีจับกุม นายแพททริค เฟอร์นานด์ เอ็ม คูเลียร์ อายุ 57 ปี ชาวเบลเยียม ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน” พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าเดินทางสีดำ จำนวน 1 ใบ
ผู้ต้องหาก่อคดีลักทรัพย์ที่สายพานรับกระเป๋า ตำรวจ สตม.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมและช่วยเหลือติดตาม และคืนทรัพย์สินแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งสิ่งของภายในกระเป๋ามีมูลค่ากว่า 103,000 บาท เหตุเกิดวันที่ 2 ม.ค.นายไซ ฉี นักท่องเที่ยวจีน มาร้องทุกข์ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าขณะที่ตนเดินทางมาจากประเทศจีน กระเป๋าเดินทางที่ใส่ของมีค่าได้หายไป
จากสายพานลำเลียงสัมภาระ
วันที่ 16 ม.ค.ชุดสืบสวนพบตัวนายแพททริคอยู่ที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางไปประเทศเวียดนาม ขอตรวจสอบพบกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนอยู่กับผู้ต้องหา จึงได้จับกุมตัว
ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีประวัติการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยหลายครั้ง ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 27 ครั้ง น่าเชื่อว่าอาจจะมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องคดีลักทรัพย์กระเป๋าเดินทางนักท่องเที่ยวที่สายพานลำเลียงสัมภาระ อยู่ระหว่างขยายผลคดีลักทรัพย์สินนักท่องเที่ยวภายในสนามบินสุวรรณภูมิ
เชื่อว่าน่าจะทำอีกหลายคดี
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. และ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานต่างๆ เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ระมัดระวังและสอดส่องดูแลทรัพย์สินของตนในระหว่างการเดินทางหากเกิดกรณีทรัพย์สินสูญหายให้แจ้งสายด่วน 1155 หรือเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
...
เป็นคดีที่เกิดขึ้นบ่อยมาก เป็นความเสียหายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ถูกลักไปจาก “สายพานสัมภาระ” ทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเร่งปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทำความผิด โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม
กลายเป็นข่าวใน “สื่อออนไลน์” ทำความเสียหายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย
เป็นภัยต่อความมั่นคงภายในประเทศ.
“เพลิงพยัคฆ์”