พบโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะคล้ายมนุษย์ในไร่อ้อยสุพรรณบุรี สาวใหญ่รุดดูที่เกิดเหตุ เชื่อเป็นพี่ชายที่หายไป หลังจำสิ่งของที่เคยให้ได้
วันที่ 13 ม.ค. 2562 ร.ต.ท.ชณัฏฐ์ แว่นแก้ว รอง สว.สส.สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งพบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์บริเวณไร่อ้อยหลังวัดชัฏหนองยาว หมู่ที่ 2 ต.ห้วยขมิ้น จึงรายงานผู้บังคับบัญชา จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช ผกก.สภ.ด่านช้าง, พ.ต.ท.อภิชาติ อาภาศิลป์ รอง ผกก.สส. แพทย์เวร ชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี อ.ด่านช้าง
ที่เกิดเหตุพบกะโหลกศีรษะและกระดูกชิ้นส่วนคล้ายของมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ในละแวกใกล้เคียง โดยพบเสื้อผ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีน้ำเงิน บางส่วนกระจายอยู่ นอกจากนี้ยังพบหมวกไหมพรม ผ้าห่ม ไขควง 1 ด้าม รองเท้าผ้าใบสีดำ 1 คู่ เครื่องรางเขี้ยวหมูตันติดกับสร้อยสแตนเลส 1 เส้น ยาดม ขวดน้ำพลาสติก ยาเส้นบรรจุในถุงพลาสติก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม น.ส.ธิดารัตน์ ศรีจันทร์อิน ผู้พบศพเป็นคนแรกกล่าวว่า ขณะกำลังจะตัดอ้อยในที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นกะโหลกลักษณะคล้ายศีรษะมนุษย์จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติการแจ้งบุคคลสูญหาย พบว่า นางสุนันท์ ศรีสอาด อายุ 47 ปี ชาว ต.ด่านช้าง เป็นน้องสาวของผู้สูญหาย เคยมาแจ้งความคนหายไว้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2561 จึงประสานให้มาดูหลักฐาน หลังดูแล้วได้ยืนยันว่าเสื้อผ้าและของใช้ที่พบเป็นของ นายสุนัน ศรีสอาด อายุ 52 ปี พี่ชาย เนื่องจากหมวกไหมพรมที่พบ นางสุนันท์ เป็นคนให้ผู้ตายเอง และเป็นคนเย็บกระสอบที่ใส่เสื้อผ้าและผ้าห่มที่พบในที่เกิดเหตุด้วย อีกทั้งผู้สูญหายติดยาเสพติด มีอาการประสานหลอน และเป็นโรคความดันสูง แต่ไม่ยอมพบแพทย์รักษาตัว ซึ่งเมื่อประมาณเดือน ส.ค. 2561 ผู้ตายเรร่อนออกจากบ้านไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันที่ 7 ธ.ค. นางสุนันท์ พบรถจักรยานยนต์ของพี่ชายจอดทิ้งไว้ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ต่อมาจึงแจ้งความคนหาย
...
ทั้งนี้ เบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมเก็บชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะและกระดูกชิ้นส่วนต่างๆ เสื้อผ้า ของใช้ที่พบในที่เกิดเหตุเพื่อส่งตรวจ พร้อมเก็บตัวอย่าง DNA ของน้องสาวและบิดาของนายสุนัน ส่งสำนักงานนิติเวชวิทยา พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.
(ภาพจากมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี)