ผบก.สุพรรณบุรี แจงอีกรอบ ปมออกหมายจับ "นายฝน" ชายสติไม่ดี พาน้องต้าแงเข้าป่าอ้อย ก่อนพบเสียชีวิตในร่องน้ำ ยันข้อมูลแน่น สอบพยาน 59 ปาก ย้ำผู้ต้องหาสมองเท่าเด็ก 5 ขวบ ไม่ได้ระบุ "ฆ่าเด็ก"  

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รองผบก.ภ.จน.สุพรรณบุรี แพ.ต.อ.สมเดช เกษมสุข ผกก.(สอบสวน)ฯ เดินทางมารายงานความคืบหน้าและชี้แจงต่อสื่อมวลชน ในประเด็นการเสียชีวิตของ ด.ช.ซูลุยผิว หรือน้องต้าแง เด็กชายชาวเมียนมา วัย 2 ขวบ ที่หายเข้าไปในไร่อ้อยนาน 9 วัน ก่อนพบว่าน้องเสียชีวิตภายในร่องน้ำในไร่อ้อยดังกล่าวและการออกหมายจับนายฝน อายุ 32 ปี ชายสติไม่ดี ในข้อหาพรากผู้เยาว์

พล.ต.ต.คมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามคดี และตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพื่อให้มีความรัดกุมและรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมมากที่สุดทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และสอบพยานไปแล้วกว่า 59 ปาก เป็นพยานที่ให้การเป็นประโยชน์ฝั่งนายฝนถึง 8 ปาก

ทั้งนี้ การที่ตำรวจออกหมายจับนายฝน ไม่ได้หมายความว่านายฝนเป็นฆ่าน้องต้าแง แต่จากการสอบปากคำนายฝน ให้การว่าวันนั้นพาน้องไปเล่นน้ำ และเจ้าหน้าที่ได้ให้นายฝนพาไปยังจุดที่น้องเสียชีวิต นายฝนก็สามารถพาไปถูกถึง 2 ครั้ง ทั้งๆ ที่ระยะทางห่างเกือบ 1 กิโลเมตร อีกทั้ง จากการสอบสวนไม่มีใครอื่นที่น่าสงสัยอีกแล้ว ตำรวจจึงออกหมายจับ ต่อมา ทราบว่านายฝน เป็นคนสติไม่ดี ถึงจะมีอายุ 32 ปี แต่ระบบสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบ ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ส่งตัวนายฝนไปที่ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อยืนยัน และประเมินสภาพจิตว่าเป็นอย่างไร ในวันเกิดเหตุ มีความสามารถในการรู้สึกผิดชอบชั่วดีแค่ไหน สามารถสู้คดีในชั้นศาลได้หรือไม่ โดยตำรวจส่งตัวไปตั้งแต่ 27 ธ.ค.62 ต้องรอผลอีก 45 วัน จึงจะทราบ

...

ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวอีกว่า ส่วนที่ชาวบ้านยังไม่ปักใจเชื่อว่านายฝนเป็นผู้ที่พาเด็กไปนั้น เนื่องจากในวันเกิดเหตุนายฝนอยู่ที่วัด ต้องบอกว่า จากการสอบปากคำของพยานหลายคนให้การไม่ตรงกันเลย เด็กหายตัวไปในวันที่ 17 ธ.ค.61 มาเจอศพน้องวันที่ 25 ธ.ค.61 ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์แล้ว เหตุการณ์ที่ผ่านไปหลายวันขนาดนี้มันจำไม่ได้หรอก แล้วถ้าช่วงที่เกิดเหตุนายฝนไปที่วัดจริง แต่ในช่วงที่เขาหายออกไปใครรู้บาง ดังนั้น การสอบปากพยานหลายคนก็ให้การไม่ตรงกัน แต่ถ้าใครมีหลักฐานใหม่มาเพิ่มเติมตำรวจก็พร้อมที่จะรับฟัง

ส่วนกรณีทนาย จะพาพ่อแม่ไปร้องกองปราบฯ เพื่อขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนนั้น ตนไม่มีอะไรขัดข้อง ถ้าผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมที่จะทำตาม ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ภายใต้กฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ข่าวที่มีการเสนอออกไปเป็นข้อมูลเพียง20เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 80 เปอร์เซ็นต์อยู่ในสำนวน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ย้ำว่า รอผลจากโรงพยาบาล และจะชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง

สำหรับประเด็นที่มีการวิจารณ์กันว่าจุดที่พบศพเด็กห่างจากจุดหายตัว 5 กิโลเมตรนั้น เป็นการให้ข้อมูลที่คาดเคลื่อน ความจริงแล้วจุดที่พบศพห่างเพียงแค่ 840 เมตรเท่านั้น