เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านขายของชำลุงเฮงในจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่ภายในร้านเต็มไปด้วยเชื้อเพลิงทำให้ร้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมเพลิงได้...


เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ร.ต.อ.ภุชงค์ ทรงศิลา รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายของชำ ลุงเฮง ตั้งอยู่หมู่ 14 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพรงมะเดื่อ รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลโพรงมะเดื่อ รถดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครปฐม รวม 7 คัน รุดเดินทางไปตรวจสอบ


ในที่เกิดเหตุพบว่าร้านขายของชำลุงเฮงนั้น เปิดเป็นห้องแถวชั้นเดียวมีประตูเหล็กปิดอย่างหนาแน่น พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในร้านอย่างรุนแรง แต่ไม่ลุกลามออกไปยังห้องข้างเคียง แต่เนื่องจากภายในมีสินค้ามากมายรวมไปถึงน้ำมันเบนซินบรรจุขวดขายจำนวนมาก จึงไม่สามารถดับไฟได้ ประกอบกับประตูเหล็กด้านหน้าและด้านหลังปิดมิดชิดทุกบาน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันใช้ค้อนปอนขนาดใหญ่ทุบตีกำแพงออก พร้อมกับใช้ชะแลงงัดประตูเหล็กม้วนด้านหน้า เพื่อทำการฉีดน้ำดับเพลิง ไม่ให้ลุกลามไปยังห้องข้างเคียงใช้เวลากว่า 20 นาทีจึงสามารถดับไฟได้ จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่าสินค้าภายในร้านทั้งเครื่องดื่ม และตู้เย็น ตู้แช่ ข้าวของในชั้นวางเสียหายถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด

...

จากการสอบถามนายบุญเสริม สุวรรณโชติ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 2 ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม เจ้าของร้านขายของชำลุงเฮง หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่าเกิดเพลิงไหม้ที่ร้านค้าของตนจึงรีบกลับมาดู เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันที่ตนปิดร้านพักผ่อนและกลับไปอยู่ที่บ้านพักใน ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม สำหรับการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ตนยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด


นายรณกร โลมา อายุ 34 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 40/4 หมู่ 14 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในละแวกบ้านใกล้กับร้านลุงเฮงขายของชำ ขณะนั้นตนได้ยินเสียงดังแปลกๆ คล้ายกับเสียงกระเบื้องแตก จึงใจเดินมาดูพบว่ามีกลุ่มควันลอยออกมาจากร้าน แล้วเมื่อดูจนแน่ใจเห็นท่าไม่ดี รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้จึงโทรแจ้งลุงเฮง เจ้าของร้าน และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานรถดับเพลิงมาช่วยกันดับไฟ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟช็อตหรือไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะประสานกองพิสูจน์หลักฐาน 7 เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป