รอง ผบช.ภ.7 ติดตามคดีหลอกสาวค้ากามเกาหลี ชี้ สนธิกำลังตำรวจสากลสืบหาความจริงหลังมีหนุ่มร้องแฟนถูกหลอกไปค้ากาม วอนแรงงานไทยตรวจสอบบริษัทหางานก่อนกลายเป็นผีน้อย...
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 9 ตุลาคม 2561 พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการภาค 7 ได้เดินทางมาที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่เมื่อวานนี้ 8 ต.ค.61 มีผู้ร้องเรียนไปยังสื่อออนไลน์ เพื่อขอให้ช่วยติดตามแฟนสาวที่ถูกหลอกไปขายบริการทางเพศที่ประเทศเกาหลี โดยผู้ร้องเรียนบอกว่า แฟนสาวสมัครใจไปทำงานนวดแผนไทย แต่เมื่อไปถึงเกาหลีแล้วกลับถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ เหตุเกิดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบันนี้
พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการภาค 7 เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ได้เข้าตรวจค้นที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในตำบลคลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพิกัดที่ได้รับแจ้งจากนายนาวิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าเป็นสถานที่รับจัดหางานไปประเทศเกาหลี แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเพียงแค่สถานที่พักชั่วคราวและเป็นที่ฝึกสอนผู้ที่จะไปทำงานนวดแผนไทยในเกาหลีเท่านั้น โดยไม่พบผู้เช่าหรือผู้นำพาบุคคลทั้ง 6 คนมาพัก แต่สาวไทย 6 คนที่พบในที่พักนั้นสมัครใจมาเอง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน จึงได้มีการสนธิกำลังร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเกาหลีและตำรวจสากล ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า แฟนสาวของนายนาวินนั้น ถูกหลอกไปขายบริการทางเพศจริงหรือไม่ หรือเป็นเพราะความห่วงใยจนทำให้นายนาวินเกิดความร้อนใจที่ติดต่อแฟนสาวไม่ได้ จึงคาดการณ์ว่าอาจจะถูกลวงไปขายบริการทางเพศ
รองผู้บัญชาการภาค 7 กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ได้มีการคุยแชตกับนายนาวินแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ โดยทราบว่าขณะนี้นายนาวินยังอยู่ที่ประเทศเกาหลี และกำลังจะเริ่มงานที่นั่น จึงไม่สะดวกที่จะกลับมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทั้งนี้ทางตำรวจไทยก็ได้ประสานกับตำรวจสากล เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวนายนาวิน เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อันจะนำไปสู่การติดตามหาตัวแฟนสาวของนายนาวินว่า แท้จริงแล้วถูกหลอก หรือถูกบังคับให้ค้าประเวณีจริงหรือไม่ ส่วนทางด้านตำรวจไทยก็จะสืบสวนขยายผลต่อไปอีก ว่ามีขบวนการหลอกพาสาวไทยไปค้าประเวณีหรือขายบริการทางเพศที่ประเทศเกาหลีจริงหรือไม่
...

พล.ต.ต.อุดร กล่าวอีกว่า หากเรื่องของการหลอกพาสาวไทยไปค้าประเวณีเป็นเรื่องจริง ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและตำรวจสากล ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องร่วมกันขจัดขบวนการนี้ให้หมดสิ้นไป แต่ถ้าสิ่งที่นายนาวินร้องเรียนไม่เป็นความจริงนั้น ก็ต้องไปสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ที่นายนาวินทำลงไปนั้นเพราะสาเหตุอะไร แต่ตอนนี้สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งดำเนินการก่อนคือ การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามที่นายนาวินร้องเรียนไว้ นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนสังคมอีกด้วย ถึงพิษภัยของโซเชียลมีเดีย ที่มีภัยอาชญากรรมร้ายแฝงมาและเข้าถึงประชาชนได้ง่าย ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนี้ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง แต่ก็มีสิ่งที่เตือนสติได้คือ หากจะไปทำงานต่างประเทศนั้น ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้เป็นที่แน่ชัดก่อนว่า บริษัทจัดหางานที่ประกาศอยู่นั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
รองผู้บัญชาการภาค 7 กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามสืบหาข้อเท็จจริงในกรณีของนายนาวินและแฟนสาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รู้ผลเป็นที่ชัดเจนอย่างเร็วที่สุด.