ญาติใช้เทคโนโลยีสืบจากตำแหน่งจีพีเอส บนมือถือ จนพบศพสาวบ้านโป่ง อยู่ในรถจมน้ำคลองชลประทานที่ อ.ท่ามะกา โดยพบร่องรอยล้อรถวิ่งทับกอหญ้าเป็นทางยาวลงไปในน้ำ...

จากกรณี สมาชิกเฟซบุ๊ก “Bike Baybe Aungwaracharisa” ได้โพสต์ตามหาเพื่อน ชื่อ น.ส.รวิวรรณ ขันธ์เครือ หรือข้าว โดยระบุว่า ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. เวลา 23.00 น. ใช้รถเก๋งมาสด้า 3 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 2กจ 4808 กทม. สวมชุดโรงงานไทยเบฟเวอเรจ พบครั้งสุดท้ายที่ ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เส้นทางที่หายคาดว่าจะเป็นเส้นทางระหว่างท่ามะกา-บ้านโป่งนั้น

ล่าสุดรายงานข่าวระบุว่า ในวันนี้ (5 ต.ค.61) ครอบครัวได้ตามหาตัวสาวรายดังกล่าว โดยได้สืบจากเบาะแสร่องรอยของ GPS ของโทรศัพท์ จนพบว่ามาสุดที่บริเวณแยกสนุ่น ม.5 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้พบกับรอยรถไถลลงคลอง และอยู่ระหว่างการนำรถขึ้นมาจากน้ำ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีใครอยู่ในรถหรือไม่

ต่อมา เวลา 09.00 น. ร.ต.อ.โสภณ กลั่นผลหรั่ง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากญาติของ น.ส.รวิวรรณ ขันธ์เครือ หรือ ข้าว อายุ 28 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ว่า พบสัญญาณ GPS โทรศัพท์ของ น.ส.รวิวรรณ หรือ ข้าว อยู่ในคลองชลประทานฝั่งซ้าย บริเวณแยกบ้านสนุ่น หมู่ 5 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา กาญจนบุรี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี มูลนิธิขุนรัตนาวุธให้ช่วยกันดำค้นหา หลังจากญาติได้ออกติดตามหา น.ส.รวิวรรณ  ภายหลังจากหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. โดยหายไปพร้อมรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์เงิน หมายทะเบียน 2 กจ 4808 กทม. และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า จุดสุดท้ายอยู่ในท้องที่ ต.ตะคร่ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จนกระทั่งญาติพบพิกัดสัญญาณจีพีเอสของโทรศัพท์ของ น.ส.รวิวรรณ จนพบร่องรอยของล้อรถวิ่งทับกอหญ้าเป็นทางยาวลงไปในคลองบริเวณสะพานบ้านสนุ่น ดังกล่าว

...

จากนั้นเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี มูลนิธิขุนรัตนาวุธได้ช่วยกันระดมค้นหา โดยใช้เวลานานกว่า 6 ชม. ท่ามกลางพ่อแม่ ญาติและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งไทยมุ่งจำนวนมาก ในที่สุดก็พบชิ้นส่วนแรกเป็นกระจังหน้าของรถคันเกิดเหตุ และห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปประมาณ 100 เมตร กลางลำคลอง พบซากรถยนต์คันดังกล่าว จึงทำการกู้ซากรถขึ้นมาบนฝั่ง จากการตรวจสอบภายในรถพบร่างของหญิงสาวสวมชุดของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ติดอยู่บริเวณเบาะหลัง สภาพขึ้นอืด 

ทางญาติยืนยันว่า เป็น น.ส.รวิวรรณ จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ มาชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นเกิดจากการขาดอากาศหายใจ และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งจะได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง และหากญาติไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตก็จะมอบศพให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

จากการสอบถามบิดาของ น.ส.รวิวรรณ ผู้เสียชีวิต ทราบว่า วันเกิดเหตุบุตรสาวได้ออกมาจากโรงงานของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อมาหาแฟนหนุ่มในพื้นที่บ้านสำนักคร้อ หมู่ที่ 1 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อเวลา 22.00 น. แม่ของผู้ตายได้โทรศัพท์หาผู้ตายก็ยังสามารถติดต่อได้อยู่ แต่เวลาประมาณ 23.00 น. ของวันเดียวกันปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้แล้ว จึงได้พยายามออกตามหา และเช็คภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งสัญญาณ GPS โทรศัพท์ กระทั่งมาพบบุตรสาวกลายเป็นศพดังกล่าวหลังหายตัวไปนาน 3 วัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เกิดจากอุบัติเหตุ เนื่องจากสภาพด้านหน้าของรถมีร่องรอยของการเฉี่ยวชนจนพังยับเยิน คาดว่า น.ส.รวิวรรณ ขับมาตามเส้นทางเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่เนื่องจากขณะเกิดเหตุสภาพอากาศมืด และบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีไฟส่องสว่าง ประกอบกับไม่ชำนาญเส้นทาง จึงไม่เห็นว่า สะพานดังกล่าวเป็นสะพานเล็กที่ใช้เฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น ส่วนรถใหญ่จะต้องใช้สะพานถัดไปที่ตั้งอยู่คู่ขนานกัน จึงอาจเป็นเหตุให้ผู้ตายเกิดความเข้าใจผิดขับรถตรงไปจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในที่สุด.