หนุ่ม นิสิต ม.ดังที่ถูกตาวัย 70 ยิงดิ้นคาห้างที่นครปฐม แจง ไม่เคยให้ของลับคู่กรณี เผยเดินบนถนนปกติแถมโดนพยายามขับรถมาชน ก่อนยิงใส่โชคดีไม่ถูกจุดสำคัญ ชี้ พูดเข้าข้างตัวเองปล่อยความแค้นครอบงำ

จากกรณีที่ นายสุชาติ บัวแสงจันทร์ อายุ 70 ปี ที่ใช้อาวุธปืนยิงนายอุเทน สามงามน้อย อายุ 23 ปี นักศึกษาปี 4 ม.เกษตรศาสตร์กำแพงแสน จ.นครปฐม ภายในที่จอดรถของห้างเทสโก้โลตัส สาขานครปฐม บาดเจ็บวิ่งหนีไปหลบอยู่ภายในร้านขายขนมปัง ภายในห้างร้องให้คนช่วย หลังก่อเหตุนายสุชาติยืนมอบตัวพร้อมอาวุธปืนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อ 18.30 น.ของวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อ 15.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค.61 มาว่า นายสุชาติ บัวแสงจันทร์ อายุ 70 ปี ศาล จ.นครปฐม ได้ให้ประกันตัวไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.61 ส่วนนายอุเทน สามงามน้อย อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์ นครปฐม อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยเนื่องจากกระสุนถูกที่ไม่สำคัญ คาดว่าภายใน 1-2 วันแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ในระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีเหล่าบรรดาเพื่อนนักศึกษาเดินทางมาเยี่ยม และดูอาการกันอย่างมากมาย ในระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์นครปฐม นั้น นายอุเทน ได้อ่านจากข่าวและดูทีวี จากนั้นได้โพสต์ข้อความแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบและตอบโต้คู่กรณีมีใจความว่า

"ไม่ได้ให้ของลับและไม่ได้เอาของแข็งหรือมือทุบรถของคนที่ยิงเลย ความจริงคือมันเจอรถผมบนท้องถนนแถวๆ แยกพระประโทน จากนั้นรถของมือปืนก็ขับตามมาจนถึงโลตัส รอจังหวะที่จอดรถเมื่อเสร็จผมกำลังจะเดินเข้าโลตัส มันก็พยายามขับรถมาชน ชนผมเสร็จมันก็ควักปืนมายิงผมเลย 4-5 นัด ทำให้ผมพลาดได้รับบาดเจ็บที่ขา แต่คนยิงกลับให้การเข้าข้างตัวเองให้ดูดีว่าเป็นคนถูก ส่วนเรื่องลูกที่ว่าเคยคบกันนั้นผมได้เลิกไปเป็นปีแล้ว แต่ความแค้นมาครอบงำมัน อาชญากรคนนี้เป็นภัยต่อสังคมโปรดระวัง"

...

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของนายอุเทน สามงามน้อย นศ.ที่ถูกยิง ได้พบ นางประยูร สามงามน้อย อายุ 56 ปี แม่ของนายอุเทน ได้ เปิดเผยว่า อาการของลูกชายดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าเร็วๆ นี้ จะออกจากโรงพยาบาล มาพักรักษาตัวที่บ้านได้ เพราะกระสุนไม่โดนจุดสำคัญ และได้เล่าเหตุการณ์ที่ลูกชายเล่าให้ฟังระหว่างไปเยี่ยมเฝ้าไข้ หาว่าลูกชายไปรักเขาข้างเดียว ขอยืนยันว่าไม่ใช่ เด็กทั้ง 2 คนต่างมีใจและรักกัน ฝ่ายหญิงก็เคยมาที่บ้าน ดังนั้นจะมาอ้างว่าลูกชายตนไปรักลูกสาวของนายสุชาติฝ่ายเดียวไม่ได้

อดีตเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งคู่คบกัน พ่อของฝ่ายหญิงไม่เห็นด้วย เพราะยังเรียนอยู่อยากให้จบก่อน และพ่อบอกให้ลูกสาวเลิกคุยกับลูกชาย แถมยังห้ามลูกชายไม่ให้ไปยุ่งกับฝ่ายหญิงด้วย ส่วนตนเองก็สั่งให้ลูกชายให้เลิกคบกับฝ่ายหญิงเพราะกลัวมีปัญหา เมื่อบุตรชายนำของที่ฝ่ายหญิงเคยให้ไปคืนที่บ้านฝ่ายหญิงเกิดเจอหน้านายสุชาติ กลับถูกชกหน้า และถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานบุกรุกด้วยอีก

นางประยูร กล่าวด้วยว่า บุตรชายยังบอกว่า คู่กรณีหาว่ายกนิ้วกลางให้นายสุชาติ รวมถึงใช้อาวุธทุบรถของนายสุชาตินั้น ลูกชายยืนยันว่าไม่ได้ทำเลย อยากให้ตำรวจตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ หากถ้าบุตรของตนทุบรถจะต้องมีรอยนิ้วมือติด ให้มันชัดเจนไปเลย ยังเชื่อมั่นว่าลูกชาย ไม่ใช่คนเกเร ตนยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นึกว่าจะมีการอาฆาตมาดร้ายกันถึงขนาดนี้ ขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย.