คนสอยมะพร้าวที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เตรียมตกงาน หลังรายได้ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ อันเป็นผลกระทบจากมะพร้าวราคาตกดิ่งรูด เจ้าของสวนงดจ้าง ชี้ไม่คุ้มค่าเก็บปล่อยทิ้งให้งอกแทน...
จากสาเหตุมะพร้าวราคาตกทั่วประเทศ โดยเฉพาะอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งปลูกมะพร้าวชื่อดัง มีคุณภาพและปริมาณมากที่สุดในประเทศ จากราคาสูงสุดเมื่อปี 60 ที่ 27-29 บาทต่อลูก ปัจจุบันเหลือ 4 บาท หักค่าสอย ค่าเก็บ เหลือเพียงลูกละ 1-2 บาท ไม่คุ้มค่าค่าใช้จ่าย เจ้าของสวนยอมปล่อยทิ้งให้งอก กระทบเป็นลูกโซ่ คนเก็บ คนสอย คนรวบผล ขาดรายได้หนัก
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ราคามะพร้าวตกต่ำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2561 อยู่ที่ราคา 15 บาท และช่วงกลางปีเหลือ 6-7 บาท ล่าสุดเหลือเพียง 4 บาท ทำให้วงจรที่เกี่ยวกับกับมะพร้าวสวนในอำเภอทับสะแก ทั้งเจ้าของสวนมะพร้าว คนเก็บ คนสอย คนรวบรวบ ล้งขายมะพร้าว คนงานกะเทาะมะพร้าวขาว ได้รับผลกระทบทั่วกัน ด้วยราคาที่ตกต่ำกับปริมาณการผลิตปลายทางที่ลดลง ส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานมีรายได้ต่ำลงกว่าครึ่ง ไม่พอค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซ้ำร้ายค่าครองชีพยังสูงละลิ่ว
...
นายประยงค์ แสงจันทร์ อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านห้วยเจริญ ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก อาชีพคนสอยมะพร้าวประสบการณ์กว่า 30 ปี กล่าวว่า จากที่เคยสอยมะพร้าวทุกวัน มีรายได้เดือนร่วมสองหมื่นบาท ปัจจุบันได้เพียง 6-7 พันบาท สาเหตุจากเจ้าของสวนไม่ยอมเก็บผลมะพร้าวเพราะได้ไม่คุ้มทุน ในช่วงที่มะพร้าวราคาดีเจ้าของสวนจะเรียกเก็บทุกเดือน แต่ช่วงนี้ ราคามะพร้าวลงเหลือราคาขายหน้าสวนที่ 4 บาท จึงเลือกเก็บ 2 เดือนครั้ง ขณะที่บางสวนยอมปล่อยให้มะพร้าวงอกคาสวน เพราะไม่คุ้มค่าใช้จ่าย ที่หักแล้วได้เพียง 1-2 บาทต่อลูก
คนสอยมะพร้าวประสบการณ์กว่า 30 ปี กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ได้ค่าแรงในการสอยมะพร้าวลูกละ 2 บาท เหลือเพียง 1 บาท นอกจากราคาที่หายไปครึ่งแล้ว จำนวนผลมะพร้าวที่สอยได้ก็หายไปกว่าครึ่ง ทำให้รายได้ลดลงต่ำเสียกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งในการสอยมะพร้าวแต่ละครั้ง ต้องทำเป็นทีมงาม สวนขนาดเล็กจะใช้คนสอย 3 คน หากเป็นสวนขนาดใหญ่ต้องใช้คนสอยถึง 10 คน ผลกระทบเช่นนี้ หากมีมะพร้าวนำเข้าและมะพร้าวเถื่อนเข้ามาในประเทศมากจนล้นตลาด ส่งผลโดยตรงให้เจ้าของสวนปล่อยผลผลิตทิ้งคาสวนมะพร้าว
นายประยงค์ กล่าวอีกว่า ในอนาคตจะทำให้อาชีพคนสอยมะพร้าวหายไปจากประเทศไทย ทั้งที่ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ไม่สืบทอดอาชีพนี้จากพ่อแม่ เพราะเป็นอาชีพที่ใช้แรงงาน เหนื่อย และอันตราย เช่น มะพร้าวตกใส่ศีรษะ หรือกระเด็นใส่หน้า โดนขา ต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะ รวมทั้งการระมัดระวังเพราะต้องมองลูกมะพร้าวตลอดเวลาที่สอยและตกลงพื้น ซึ่งการสอยมะพร้าวเป็นไปด้วยความลำบาก ขณะที่มะพร้าวที่มีอายุมากบางต้นสูงกว่า 20 เมตร บางครั้งต้องต่อลำไม้ไผ่ถึง 3 ช่วงด้วยกัน
ส่วน นายสมหมาย เสียงเสนาะ อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านห้วยเจริญ ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก คนเก็บรวบรวมมะพร้าว กล่าวว่า จากที่เคยมีรายได้มากกว่าเดือนละ 2 หมื่นบาท เหลือไม่ถึง 1 หมื่นบาท เพราะปริมาณการเก็บมะพร้าวน้อยลง เคยได้ค่าแรงขนส่งจากสวนไปล้งมะพร้าวลูกละ 0.80 บาท เหลือเพียงลูกละ 0.40 บาท กระทบต่อการดำรงชีพ เนื่องจากในช่วงที่มะพร้าวราคาดี ตนเองได้ซื้อรถไถราคา 9.4 แสนบาทเพื่อเป็นหัวจากบรรทุกผลมะพร้าว มีค่าใช้จ่ายผ่อนรถเดือนละกว่าหมื่นบาท ขณะที่ค่าดำรงชีพยังคงสูง โดยเฉพาะต้นทุนค่าน้ำมัน.