รัวถล่ม6นัดซ้อน ดับต่อหน้าน้าสาว โยง ‘แก๊งลักจยย.’ แค้นแจ้งเบาะแส
ฆ่าสุดโหดหนุ่มบัณฑิตวิศวะไฟฟ้าป้ายแดงช่วยแม่ขายโจ๊ก ก่อนจบชีวิต ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์กลับจากซื้อของที่ตลาดเตรียมขายของตอนเช้า จังหวะจอดรถหน้าบ้านยังไม่ทันดับเครื่องยนต์ 2 คนร้ายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้าทั้งคู่ ขี่จอดประกบแล้วคนนั่งหลังชักปืนพกยิงเข้ากลางหลังล้มคว่ำ เหยื่อยังพอมีสติพยายามกระเสือกกระสนหนีตายเข้าไปในบ้าน ขณะเดียวกัน น้าสาวแม่ค้าขายหมูปิ้ง พบเห็นนาทีระทึกขวัญยกมือไหว้ร้องขอชีวิตหลานชาย แต่คนร้ายกลับไม่ฟังเสียงเดินตามไปกระหน่ำยิงหน้าอกซ้ำรวม 6 นัด ดับอนาถ ตำรวจพุ่งปมแก๊งลักรถ จยย.ฆ่าปิดปาก หลังสอบพบก่อนหน้านี้รถ จยย.ของผู้เป็นพ่อถูกโจรกรรม ผู้ตายสืบเบาะแสจนรู้ตัวแก๊งคนร้าย แจ้งข้อมูลเจ้าหน้าที่จนตำรวจจับกุมคนร้าย 2 คน พร้อมยึดรถคืน ภายหลังมีกลุ่มบุคคลเจรจาให้ผู้ตายหยุดเคลื่อนไหวหลังสอบขยายผลพบเกี่ยวพันเครือข่ายใหญ่ แต่เหยื่อไม่ยอม
หนุ่มบัณฑิตป้ายแดงช่วยแม่ขายโจ๊กถูกยิงถล่มตายอนาถคาบ้านต่อหน้าญาติรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 25 ก.ย. พ.ต.ท.เสน่ห์ ปัญญาเรือง สว. (สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย อ.เมือง ปทุมธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 2 ซอยวัดมะขาม ต.บ้านกลาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด ผกก.สภ.สวนพริกไทย พ.ต.ท.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เศรษฐกรณ์ ชัยวีระวงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุภสิทธิ์ ชุ่มแจ่ม สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบ
...
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นตั้งอยู่ริมถนน ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ ส่วนหน้าบ้านมีรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ ขายโจ๊ก ข้าวต้มเลือดหมู และข้าวเหนียวหมูปิ้ง บริเวณพื้นหน้าบ้านพบกองเลือด กับรองเท้าแตะ 1 คู่ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ หมวกกันน็อก 1 ใบ ตกอยู่ใกล้กองเลือด ขณะที่เตาถ่านกับกล่องใส่หมูปิ้งกระจัดกระจายเกลื่อน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส และเสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อนายอนุศร สนธิ อายุ 25 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าอก 4 นัด กลางหลัง 1 นัด และขาซ้ายอีก 1 นัด รวม 6 นัด
จากการสอบสวน น.ส.สมศรี พันธุ์บุตร อายุ 46 ปี น้าสาวผู้ตายเจ้าของแผงขายหมูปิ้ง และเป็นผู้พบเห็นนาทีสังหาร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนติดเตาถ่านเพื่อเตรียมขายหมูปิ้งหน้าบ้าน จังหวะเดียวกันผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากซื้อของที่ตลาดย่านรังสิต เพื่อเตรียมขายข้าวต้มเลือดหมูและโจ๊กกับผู้เป็นแม่ที่ร้านอยู่ติดกัน ระหว่างที่ผู้ตายจอดรถยังไม่ทันดับเครื่องยนต์ ทันใดนั้นคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน สวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้าทั้งคู่ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขี่จอดประกบแล้วคนนั่งซ้อนท้ายชักปืนพกยิงเข้ากลางหลังจนล้มคว่ำ ผู้ตายพยายามกระเสือกกระสนคลานหนีจะเข้าในบ้าน จังหวัดเดียวกันตนยกมือไหว้ร้องขอชีวิตหลานชาย แต่คนร้ายไม่ฟังเสียงเดินตามไปกระหน่ำยิงเข้าหน้าอกอีกหลายนัด จนมั่นใจเหยื่อไม่รอดแน่แล้ว ก่อนพากันขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ด้านนายปรีชา สนธิ อายุ 59 ปี ผู้เป็นพ่อ ให้การว่า ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร เป็นคนขยันทั้งเรื่องการเรียนจนจบปริญญาตรีสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นบัณฑิตป้ายแดงรอรับใบปริญญา ระหว่างรอสมัครงานผู้ตายช่วยผู้เป็นแม่ขายโจ๊ก ขายต้มเลือดหมูทุกเช้ามืด ส่วนสาเหตุไม่ทราบมาจากปัญหาใด เพียงแต่ก่อนหน้านี้รถจักรยานยนต์ของตนถูกคนร้ายขโมยไป แจ้งความไว้ที่ สภ.สวนพริกไทย จนเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายออกสืบหากระทั่งทราบกลุ่มคนร้ายและแจ้งเบาะแสให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายได้ 2 คน พร้อมยึดรถของกลางคืน คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวน จนลูกชายมาถูกยิงตายดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบข้อมูลในเชิงลึก พบเบาะแสเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลมาพบพูดคุยกับผู้ตายเกี่ยวกับคดีลักรถจักรยานยนต์ ให้ผู้ตายยุติการเคลื่อนไหว หลังตำรวจขยายผลพบคนร้ายเกี่ยวโยงกลุ่มขบวนการรายใหญ่ แต่ผู้ตายไม่ยินยอม อีกทั้งยังพบข้อมูลด้วยว่า ผู้ตายเคยเรียนช่างกลปทุมวัน และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายไปร่วมงานวันสถาปนาสถาบันมาด้วย อีกทั้งช่วงหัวค่ำก่อนจบชีวิตผู้ตายออกไปกินข้าวนอกบ้านกับเพื่อน จากพยานหลักฐานเจ้าหน้าที่ประมวลเหตุการณ์ลงความเห็น คาดคนร้ายมีการวางแผน และน่าจะรับรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตาย เป็นอย่างดี
ด้าน พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด ผกก. กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า สำหรับสาเหตุในชั้นนี้มุ่ง 2-3 ประเด็นคือ ปมความขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องที่ผู้ตายเป็นผู้แจ้งเบาะแสจนตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาคดีลักรถจักรยานยนต์ก่อนหน้านี้ กับเรื่องเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา ตนสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อคลี่คลายคดีให้แน่ชัด พร้อมเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป