ชาวบ้านผวาช้างป่าอ่างฤาไนพ่อแม่ลูกบุกหากินข้ามถิ่น และทำลายต้นไม้ล้มหักโค่น เสียหายจำนวนมาก รวมถึงประตูรั้วชาวบ้านถูกพังเสียหาย โดยจะมาเป็นประจำทุกปี เหมือนรู้ว่าเป็นแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ ก่อนเจ้าหน้าที่สามารถผลักดันช้างใกลับเขาป่าได้อย่างปลอดภัย...
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านปรือวาย ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ว่าเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมาได้มีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้ามากัดกินพืชสวน ต้นไม้ ข้าวของภายในหมู่บ้าน ได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน หลังจากรับแจ้งเดินตรวจสอบ บริเวณสวนหลังบ้าน นางละออ งามวงศ์ เลขที่ 190 ม.12 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่า ช้างป่าจากอ่างฤาไน เข้ามากินต้นกล้วย และทำลายล้มระเนระนาดไปหลายต้น ต้นปาล์ม ถูกช้างป่าหักโค่นเสียหายไปจำนวนมาก และประตูรั้วบ้านยังถูกพังเสียหาย นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านใกล้เคียงที่ถูกช้างป่าเข้าไปบุกกัดกินพืชสวนอีกหลายหลังคาเรือน
และพบว่าอยู่ในป่าอ้อยของชาวบ้าน ห่างจากถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว ประมาณ 1 กม. โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาอ่างฤาไน เฝ้าดูอย่างใกล้ชิด จากการใช้โดรนถ่ายภาพมุมสูงพบว่าช้างป่า จำนวน 3 ตัว คาดว่าจะเป็นช้าง 3 พ่อ แม่และลูก ที่พากันออกมาหากินอาหาร จนกระทั่งข้ามถิ่นมายังพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยข้ามถนนสาย 359 จนถึงรุ่งเช้ากลับเข้าป่าไม่ทัน จึงหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ามันสำประหลังและไร่อ้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลพฤติกรรมของช้างตลอดเวลาจนถึงช่วงเย็นใกล้ค่ำ เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการต้อนช้างให้กลับเข้าป่า โดยทำการจุดประทัดปิงปองให้เกิดเสียงดัง เพื่อต้อนช้างเดินข้ามถนนสาย 359 เส้นสระแก้วตัดใหม่ ขณะที่ช้าง เดินไปถึงบริเวณถนนสาย 359 ปรากฏว่ามีรถวิ่งไปมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ช้างทั้ง 3 ตัว ได้เดินย้อนกลับเข้าในป่าเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่ต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มาดำเนินการปิดการจราจรบนถนนสาย 359 ทั้งสองฝั่ง ที่บริเวณหลัก กม.171-172 ทางเจ้าหน้าที่จึงสามารถผลักดันช้างให้ข้ามถนน กลับเขาป่าเขาอ่างฤาไนอย่างปลอดภัย
...
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ช้างป่าที่เข้ามาในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 ตัว โดยเข้ามาในช่วงเวลาประมาณ 02.00 – 03.00 น. เข้ามาเดินกัดกินพืชสวนภายในบริเวณหมู่บ้านอย่างสบายใจ ส่วนต้นไหนที่กินไม่ได้ก็จะหักโค่นต้นทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า สำหรับช้างทั้งหมดนี้จะมาเป็นประจำทุกปี เหมือนกับรู้ว่าเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อปีที่ผ่านมาก็เข้ามาและลงไปเล่นน้ำอยู่ในสระน้ำหลังบ้านชาวบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้.