ตัวแทนนักเรียนไทยทำผลงานสุดเจ๋ง คว้า 42 เหรียญทองและถ้วยแชมป์การแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ Hkimo 2018 Final Round ที่ฮ่องกง เดินทางกลับถึงไทยแล้ว...

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 4 กันยายน 2561 ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ บรรดาผู้ปกครองจำนวนมากพร้อมคณะครูและอาจารย์ได้เดินทางมารอต้อนรับกลุ่มนักเรียนตัวแทนของประเทศไทยที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ในรายการ Hongkong International Mathematics Olympiad 2018 (Hkimo 2018 Final Round) ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง วันที่ 3 กันยายน 2561

นักเรียนไทยสามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้จำนวน 42 เหรียญ เหรียญเงินจำนวน 59 เหรียญ และเหรียญทองแดงจำนวน 40 เหรียญ และรางวัลชมเชยอีก 32 รางวัล แบ่งเป็นถ้วยรางวัลจำนวน 11 ถ้วย ถ้วยแชมป์จำนวน 4 ถ้วย ถ้วยรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 4 ถ้วย ถ้วยรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จำนวน 3 ถ้วย และถ้วย World Star จำนวน 2 ถ้วย

...

หนึ่งในนั้นมี เด็กชาย กิรัชภาส ถาวร อายุ 11 ปี หรือน้องโอโซน นักเรียนชั้น ป.6 B โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่ได้รับรางวัลที่ 1 ระดับประเทศไทย และได้รับรางวัลที่ 2 ในระดับนานาชาติ จากผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 15 ประเทศ นักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 1,300 คน และได้ไปร่วมการแข่งขันต่อที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TE 0609 โดยมีนายโรเบิร์ต ฟอร์แตน สัญชาติฟิลิปินส์ เลขาธิการ HKIMO ประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าทีม นำนักเรียนไทยไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ และ 10 ประเทศที่เข้ารอบชิงชนะเลิศรอบสุดท้าย คือ ฮ่องกง คีร์กีซสถาน ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ ยูเครน บัลแกเรีย และ อิหร่าน

น้องโอโซน กล่าวว่า ตัวเองเริ่มแข่งขันคณิตศาสตร์ในระดับประเทศ มาตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ ป.3 ที่ไปแข่งในครั้งนั้นก็ได้ในระดับเหรียญเงิน และค่อยพัฒนามาเรื่อยๆ จนมาได้ในระดับเหรียญทอง ส่วนในเรื่องการเตรียมตัวนั้นก็ไม่มีอะไรมาก แค่พยายามทำโจทย์ของปีเก่าทุกๆ ครั้ง และทำโจทย์แนวตัวอย่างที่พอหาได้ และทำหนังสือโจทย์ภาษาอังกฤษ ฝึกโจทย์ภาษาอังกฤษจนคุ้นเคยกับโจทย์ ทำให้มองข้อสอบออกว่าต้องทำอย่างไรจึงรวดเร็วและถูกต้อง สำหรับเหรียญทองในระดับนานาชาติเหรียญนี้ไม่ใช่เหรียญแรก แต่ก่อนหน้านี้เคยได้มาก่อนแล้วในรายการอื่นๆ

ส่วนการแข่งขันในครั้งนี้ไม่มีแรงกดดันอะไรมากมาย แค่เราทำให้สุดความสามารถได้แค่ไหนแค่นั้น ส่วนประทศที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว คือ ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ที่ตนคิดว่าน่ากลัวที่สุด คือ เด็กไทยด้วยกันเอง เพราะส่วนตัวคิดว่าเด็กไทยเก่งกันทุกคน เพราะเราต้องแข่งกันทั้งหมด ใครสมัครสอบผ่านการคัดตัวในรอบแรกเข้าไปก็ต้องแข่งกันทั้งหมด และตนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เป็นหนึ่งในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย.