2 เขื่อนเมืองกาญจน์ เร่งพร่องน้ำ รองรับปริมาณฝนช่วงเดือน ก.ย. รวมถึงเขื่อนแม่กลอง ระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ขณะที่บ้านเรือนใต้สะพานมอญ น้ำท่วมเกือบมิดหลังคา น้ำแควน้อย จ่อท่วมฐานน้ำตกไทรโยคใหญ่...
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายไพรัตน์ ทับประเสริฐ ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มีมติให้เร่งพร่องน้ำออกจากเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือน ก.ย.นี้ โดยคณะกรรมการฯ มีมติปรับแผนการระบายน้ำ ระหว่างวันที่ 23 ส.ค. ถึง 3 ก.ย. เฉลี่ย 53 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยระบายผ่านช่องทางปกติ วันละ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร และผ่านทางน้ำล้น (Spillway) วันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร จากนั้นระหว่างวันที่ 4-10 ก.ย. ระบายน้ำเพิ่มเฉลี่ยเป็นวันละ 58 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ส่วนเขื่อนศรีนครินทร์ ระบายเฉลี่ยวันละ 22 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และระหว่างวันที่ 7-13 ก.ย. จะระบายเพิ่มเป็นวันละ 28 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน
ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนแม่กลองไม่ใช่มีเฉพาะน้ำจากทั้ง 2 เขื่อนเท่านั้น ยังมีปริมาณน้ำสมทบ (Sideflow) ที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ท้ายเขื่อนทั้งสองด้วย ดังนั้นจึงมีปริมาณน้ำไหลลงสู่เขื่อนแม่กลองที่ไม่แน่นอน ฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำ ที่เขื่อนแม่กลองจึงจำเป็นต้องเฝ้าติดตามเกี่ยวกับปริมาณฝนตกอย่างใกล้ชิด โดยนำข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา และจากสถานีอุทกวิทยาของกรมชลประทานมาประเมิน
นอกจากนี้ที่ผ่านมาเขื่อนแม่กลองมีข้อหารือกับ ผวจ.ราชบุรี โดยกำหนดให้ระบายน้ำลงท้ายเขื่อนแม่กลองได้ไม่เกิน 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยวันนี้ (2 ก.ย.) เขื่อนแม่กลองระบายน้ำลงท้ายเขื่อนแม่กลอง 856 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ระบาย 110 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมเป็น 966 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 83 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
...
สำหรับแนวปฏิบัติจัดการ จากแนวโน้มน้ำที่จะไหลมาที่เขื่อนแม่กลองเป็นจำนวนมาก เขื่อนแม่กลองจะผันน้ำเข้าระบบชลประทาน เพื่อรักษาระดับน้ำหน้าเขื่อนแม่กลองให้อยู่ที่ระดับ +22.20 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง หากระดับน้ำต่ำกว่านี้ ผู้ประกอบการชาวเรือและชาวแพที่อยู่หน้าเมืองกาญจนบุรีจะได้รับผลกระทบ
ด้าน นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.) อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ว่า ล่าสุดมีปริมาณน้ำในเขื่อน 8,366 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 94% ซึ่งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีมติให้เร่งพร่องน้ำออกไป เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือน ส.ค. และ ก.ย.นี้ จึงมีมติปรับแผนการระบายน้ำ วันที่ 31 ส.ค.–3 ก.ย. 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 53 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยจะระบายผ่านช่องทางปกติ วันละ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร และผ่านทางน้ำล้น (Spillway) วันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 494 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.) อ.ศรีสวัสดิ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 176.04 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เป็นปริมาณน้ำ 16,131.95 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90.91% โดยมีแผนการระบายน้ำ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร สถานการณ์น้ำในปัจจุบันที่ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเมื่อวาน (1 ก.ย.) มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 54.16 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 176.01 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ส.ค. 2651 (175.94 ม.รทก.) 7 เซนติเมตร มีการระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 25.54 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนศรีนครินทร์ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 1,613.14 ล้านลูกบาศก์เมตร (9.09%) สำหรับเขื่อนท่าทุ่งนา ได้ระบายน้ำสอดคล้องกับแผนระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ คือ ระบายน้ำวันละ 22 ล้าน ลบ.ม. โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตัวเขื่อนเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กาญจนบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ ที่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีปริมาณน้ำไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำมีมาก โดยเฉพาะระดับน้ำในแม่น้ำซองการเลีย มีน้ำไหลผ่านสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (หลวงพ่ออุตตมะ) หรือ สะพานมอญมีระดับสูงขึ้น เหลือ 2.20 เมตร ผิวน้ำจะแตะพื้นไม้ทางเดินบนสะพานมอญ ทำให้น้ำได้เอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรในชุมชนชาวมอญที่สร้างอยู้ใต้สะพานบาวหลังท่วมถึงหลังคาต้องอพยพหาที่พักพิงใหม่
ส่วนที่น้ำตกไทรโยคใหญ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค หมู่ 7 ต. ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยสูงจากปกติกว่า 4 เมตร ทำให้น้ำเอ่อเกือบท่วมถึงฐานหินใหญ่ของน้ำตกไทรโยคใหญ่ เหลืออีกแค่ 70 ซม. จะท่วมมิดฐานหินชั้นแรก.