ที่จ.อ่างทอง ลูกจ้างเลี้ยงเป็ดวัย 27 ปีคว้าไม้ฟืนตีเพื่อนดับคาที่ ผู้ต้องหาเผยแค่อยากสั่งสอนรุ่นพี่คิดว่าไม่เป็นอะไรรีบไปตามพลเมืองดีมาช่วยกลับพบว่าเสียชีวิตแล้ว
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 ก.ย. 61 ร.ต.อ.ชาญชัย มนต์แก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณโรงนา หมู่ที่ 3 ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสวก เอี่ยมมงคล ผกก. สภ.บางจัก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางจัก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ และเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จังหวัดอ่างทอง

ในที่เกิดเหตุเป็นโรงนาที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ริมถนนสายวิเศษชัยชาญ - ผักไห่ ประมาณ 100 เมตร พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ สวมเสื้อยืดคอกลมสีเขียว กางเกงขาสั้นบ๊อกเซอร์สีส้ม ที่บริเวณศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณเหนือคิ้วด้านซ้าย ยาวประมาณ 2.5 นิ้ว มีคราบเลือดตามใบหน้า ทราบชื่อต่อมา นาย มานพ ไม่ทราบนามสกุล ลูกจ้างเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง จากการสอบสวน นาย วุฒิพงษ์ หินทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ที่ 7 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนคนงานที่เลี้ยงเป็ดอยู่ด้วยกันให้การด้วยอาการมึนเมาว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองซึ่งพักอยู่ในเพิงพักคนงานที่อยู่ริมถนน กำลังจะเดินไปกินข้าวที่โรงนาที่ นาย มานพ พักอาศัยอยู่ แต่กลับพบว่า นาย มานพ ถูกทำร้าย จึงได้รีบวิ่งออกไปที่ถนนเพื่อแจ้งพลเมืองดีให้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่พอเดินกลับมาพบว่า นาย มานพ ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนเองไม่รู้ว่า นาย มานพ ถูกใครทำร้ายจนเสียชีวิตได้
...
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การของ นาย วุฒิพงษ์ เนื่องจากให้การสับสนและมีพิรุธ จึงได้สอบสวนจน นาย วุฒิพงษ์ ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุลงมือใช้ไม้ฟืนตี นาย มานพ จนเสียชีวิตคาที่ โดยสาเหตุเกิดจากที่ นาย มานพ เป็นคนลักษณะเหมือนกระเทย ชอบพูดจาข่มตนเอง และด่าว่าตนเองอยู่เป็นประจำ ทำให้ตนเองต้องเก็บอารมณ์ไว้ในใจ หลังจากตนเองเพิ่งเข้ามารับจ้างเถ้าแก่เลี้ยงเป็ดได้เพียง 2 เดือน โดยเถ้าแก่จะจ้างเดือนละ 5,000 บาท โดยมีอาหารให้กินและจะนำสุรามาให้วันละ 3 กั๊ก โดยก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากับ นาย มานพ ภายในโรงนาจนเมาได้ที่ ตนเองอยากจะกินข้าว แต่ นาย มานพ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ได้พูดจาข่มตนว่าเป็นรุ่นพี่อยู่มานาน จึงได้เกิดอารมณ์โมโหก่อนจะลุกขึ้นต่อยหน้า นาย มานพ จนล้มคว่ำ จากนั้นได้หยิบไม้ยูคาลิปตัสที่ใช้ทำฟืนตีที่ใบหน้าไป จำนวน 2 ครั้ง จน นาย มานพ แน่นิ่งไป จากนั้นจึงเกิดความสงสารเพราะตนเองเพียงแค่อยากจะสั่งสอน จึงหยิบไฟฉายเดินออกไปเรียกพลเมืองดีให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาล หลังจากเดินกลับมาพบว่า นาย มานพ นอนเสียชีวิตคาที่ โดยหลังจากยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว นาย วุฒิพงษ์ ได้ก้มลงกราบขอขมาเพื่อนร่วมงานที่ตนเองได้ลงมือทำไปด้วยความโมโห

ด้าน ร.ต.อ.ชาญชัย กล่าวว่า จากการสอบสวน นาย วุฒิพงษ์ ในตอนแรกยังให้การสับสนอ้างว่าไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานตายได้อย่างไร จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบสวนบีบคั้นมากขึ้น จึงได้ยอมรับสารภาพว่าที่ลงมือทำร้าย เนื่องจากตนเองคับแค้นใจที่ถูกผู้เสียชีวิตพูดจาข่มตนและด่าว่า นาย วุฒิพงษ์ อยู่เป็นประจำ และผู้เสียชีวิตมีลักษณะตุ้งติ้งคล้ายกระเทย ซึ่งชอบมาลวนลาม นาย วุฒิพงษ์ บ่อยครั้ง จึงได้ตัดสินใจใช้ไม้ตี นายมานพ จนเสียชีวิตที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บร่องรอยวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป