มือมืด ฆ่าปาดคอสาวเจ้าของร้านเสริมสวย วัย 49 ดับอนาถคาร้าน ย่านสมุทรปราการ ไม่พบทรัพย์สินผู้ตายสูญหาย เผยผู้ตายอยู่ร้านคนเดียว สามีและลูก แวะมาเยี่ยมอาทิตย์ละครั้ง ตร.เตรียมเรียกสอบ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 10 ก.ค.61 ร.ต.อ.ธราวุธ ไชยสาร รองสว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุฆ่ากันตายภายในร้านเสริมสวยชื่อ พร บิวตี้ ซาลอน เลขที่ 43/112 ซ.แหลมพระเมรุ-วัดคู่สร้าง (ซอยทางเข้าหมู่บ้านโกแลดน์) ม.9 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นห้องแถวปูน 2 ชั้น ปลูกติดกันรวม 15 ห้อง บริเวณด้านล่างเปิดให้เช่าเป็นร้าน จำนวน 4 ห้อง บริเวณห้องแรกเปิดเป็นร้านเสริมสวยชื่อ พร บิวตี้-ซาลอน บริเวณหลังร้านพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อภายหลัง น.ส. วัลย์นภัสร์ ชาคำนันท์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 ม. 3 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เจ้าของร้านนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น สภาพศพมีบาดแผลถูกของมีคมปาดบริเวณลำคอเป็นแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่ สวมเสื้อยืดลายดอกสีขาว คลุมทับด้วยผ้าเอี๊ยมของช่างเสริมสวยสีดำ สวมกางเกงขาสั้นลายจุดสีฟ้าอ่อน โดยมีตู้ใส่กับข้าวล้มอยู่ใกล้กัน บริเวณข้างลำตัวบนฝาถังเครื่องซักผ้า พบมีดปอกผลไม้ยาว 12 นิ้ว เปื้อนเลือด วางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน บริเวณกลางร้านซึ่งผู้ตายได้นำชั้นวางของและตู้มาตั้งกันไว้เป็นส่วนที่หลับนอน โดยมีเตียงขนาด 6 ฟุต ตั้งวางอยู่บนเตียงพบกระเป๋าสตางค์ผู้ตายสีเหลืองวางอยู่พร้อมมีตั๋วบัตรรถขนาดเล็กวางคู่อยู่ด้วย จำนวน 2 ใบ บนพื้นห้องใกล้เตียงพบรอยเท้าเปื้อนเลือด จำนวน 3 รอย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพพร้อมจดบันทึกข้อมูล ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช
...
จากการสอบถาม นายธนกฤต อินนั่งแท่น อายุ 19 ปี 43/114 ม.9 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้พบศพเป็นคนแรกทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่ในร้านเพียงคนเดียว ส่วนสามีและลูก จะมาแวะเยี่ยมเยียนอาทิตย์ละครั้ง บางครั้งมีกลุ่มเพื่อนสนิทแวะมาหาบ้าง ก่อนที่จะมาพบศพผู้ตาย บ้านตนได้เปิดร้านขายของชำอยู่กับแม่ซึ่งอยู่ถัดไปจากร้านผู้ตาย 2 ห้อง โดยจะเปิดขายของประมาณเวลา 17.00 น.ทุกวัน กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น ตนเห็นผิดสังเกต ว่า ร้านผู้ตายยังไม่ปิดประตูด้านหน้าและเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งร้าน ซึ่งโดยปกติผู้ตายจะปิดร้านประมาณ 19.00 น.ของทุกวัน ถ้าไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ตนจึงเรียกแม่ให้เดินมาดูพบว่า ร้านไม่ได้ล็อกประตูก่อนที่จะเปิดเดินเข้าไปในร้านพบผู้ตายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด จึงได้รีบวิ่งมาโทรศัพท์ที่ร้านแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ เพราะคิดว่าผู้ตายน่าจะเป็นลมล้มคว่ำ แต่ต้องตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงพลิกร่างผู้ตายดูพบว่า ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุในการฆาตกรรมครั้งนี้ได้ เนื่องจากทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ และปัญหาเรื่องส่วนตัวยังไม่มีใครปริปากบอก คงต้องเรียกสามี ลูกและหากลุ่มเพื่อนสนิทมาสอบปากคำ เพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป