สาธารณสุข จ.เพชรบุรี พร้อมอีกหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบบ้าน "หมอปลา" หลังมีข้อร้องเรียน เปิดสถานบำบัดผู้ป่วยไม่ถูกกฎหมาย ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่มีการเก็บตัวอย่างน้ำต้มพริกไทย ส่งตรวจสอบว่ามีส่วนผสมของยาอื่นหรือไม่  

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 61 สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี นำโดย นายสำราญ เจริญผล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี นายพงศ์พิสิฐ นานานุกูล หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.เชิญ พรายมี ผกก.สภ.บ้านลาด พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอบ้านลาด เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี รวมประมาณ 30 นาย ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบ้านหมอปลา หรือบ้านของ นายจีรพันธ์ เพชรขาว ที่บ้านพักในอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ตามที่มีผู้ร้องเรียน ซึ่งคณะผู้ตรวจมีทั้งหน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค ทหาร และตำรวจ ได้ตรวจสอบบริเวณบ้านทุกจุด ตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงบริเวณครัว ที่อยู่ด้านหลัง โดยได้ตรวจสอบอาการที่มีผู้มาบำบัดรักษาอาการทางจิตเวช พร้อมทั้งได้พูดคุยกับทั้งตัวผู้มาบำบัดอาการและญาติ ที่มาเฝ้าหลายสิบครอบครัว ซึ่งมีตัวอาคารด้านหน้าเป็นร้านกาแฟชั้นเดียว 1 หลัง ที่ใช้สำหรับรับแขก อาคารสวดมนต์ชั้นเดียว 1 หลัง อาคารรวมสองชั้น ที่ผู้มาบำบัดใช้พักค้างแรม 1 หลัง อาคารห้องวงจรปิด 1 หลัง อาคารโรงครัว ชั้นเดียว 1 หลัง จากนั้นได้เชิญ นายจีรพันธ์ หรือ หมอปลา พร้อมด้วย น้ำฟ้า ภรรยาหมอปลามา สอบปากคำ พร้อมให้ลงลายมือชื่อผู้ให้ปากคำและเป็นเจ้าของอาคาร

นายสำราญ เจริญผล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี เผยว่า จากการร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี วันนี้หลายหน่วยงานได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบเบื้องต้นใน 4 ประเด็น ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำความผิดใดๆ เนื่องจากเป็นลักษณะของจิตอาสา ที่ไม่มีการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่มีการรักษา เช่น 1. การฉีดยาหรือการจ่ายยา 2. ตรวจสอบไม่พบเครื่องมือหรือการจ่ายยา ที่เข้าข่ายตามกฎหมายสถานพยาบาล 3. ไม่พบมีการกระทำทารุณกรรมใดๆ 4. เรื่องการล่ามโซ่ พบว่าเป็นการกระทำของพ่อแม่ และญาติที่เป็นผู้ปกครอง ดำเนินการเองทั้งสิ้น ส่วนคำแนะนำก็จะให้คำแนะนำหมอปลาให้เข้าสู่ระบบการรักษาแบบทางเลือก หรือแพทย์แผนไทยจะดีกว่า เพราะที่ตรวจพบในขณะนี้เป็นลักษณะของจิตอาสาเท่านั้น

...

ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.เชิญ พรายมี ผกก.สภ.บ้านลาด กล่าวว่า ก่อนหน้าเคยมีการไปร้องทุกข์ว่า มีการกระทำทารุณกรรม กักขังหน่วงเหนี่ยว และล่ามโซ่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วก็ไม่พบเหตุการณ์ดังกล่าว พบเพียงมีการบำบัดโดยการใช้ฝ่ามือตบหลัง ซึ่งเป็นการสมยอม และไม่เข้าข่ายการทำร้ายร่างกาย การล่าม หรือผูกโซ่ ก็พบว่าพ่อแม่ หรือญาติที่เป็นผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่งไม่มีผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษแต่อย่างใด ส่วนที่มีข่าวว่ามีการข่มขืนผู้ที่มาบำบัดนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษแต่อย่างใด และก็ไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับที่มีการกล่าวหาว่า มีการฉีดฟิลเลอร์ให้กับคนป่วย ก็ยืนยันว่า ไม่เคยตรวจพบ หรือได้ยินเรื่องนี้แต่อย่างใด

ขณะที่ นายพงศ์พิสิฐ นานานุกูล หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบการกระทำความผิดใดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สาธารณสุข แต่ได้เก็บตัวอย่างของน้ำต้มพริกไทย เพื่อส่งตรวจสอบว่ามีการผสมตัวยาอื่นใดหรือไม่ ส่วนเรื่องสถานที่บำบัดรักษาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ เราได้เก็บหลักฐาน บันทึกการตรวจสอบ ส่งไปหารือกับทางกระทรวงสาธารณสุขอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความรอบคอบ จากนั้นเมื่อได้คำตอบก็จะมาสรุปผลการตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งโดยปกติการตอบคำหารือก็จะใช้เวลาไม่นาน

ด้าน หมอปลา ยืนยันว่า ไม่มีการรักษารุนแรงตามที่มีการร้องเรียน ส่วนการล่ามโซ่นั้นมี 2 เคส แต่เป็นญาติของผู้ป่วยยาเสพติด ที่ทางญาติเกรงว่าจะไปทำอันตรายคนอื่น จึงต้องได้ล่ามโซ่มาตั้งแต่วันแรก ส่วนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าช็อตผู้ป่วยนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ส่วนการให้คนไข้ดื่มน้ำต้มพริกไทยนั้น ได้ชี้แจงว่าให้ดื่มจริงวันละ 2 ลิตรครึ่ง ซึ่งจะใส่ขวดบรรจุไว้ และก่อนจะนำมาให้ผู้ป่วยดื่มตนเองได้ทดลองและดื่มเช่นกันและก็ดีขึ้น พร้อมยืนยันว่า คนป่วยที่มาที่นี่ มาด้วยความสมัครใจ เพราะเห็นว่าได้ไปรักษาทุกวิธีทางแล้วแต่ไม่หาย ซึ่งปัจจุปันมีคนป่วยประมาณ 100 กว่าคนเข้ามาขอบำบัดรักษาโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ส่วนการดูแลความปลอดภัยนั้น ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดแล้วกว่า 50 ตัว และยินดีหากเจ้าหน้าที่จะขอนำไปตรวจสอบ

ส่วน น้ำฟ้า ภรรยาของหมอปลา ได้ปฏิเสธว่า ไม่มีการใช้เข็มฉีดยาดังกล่าวแต่อย่างใด และปัจจุปันนี้ตนเองก็มีธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำหลายตัวแล้ว ส่วนผู้ที่มีเจตนาไม่ดี และนำชื่อหมอปลาไปแอบอ้างเพื่อขอรับบริจาค จะมีการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม หลังตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐาน หรือข้อบ่งชี้ว่ามีการรักษาตามที่มีการร้องเรียน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประชุมร่วมกันและจะมีการให้สัมภาษณ์อีกครั้ง