พลาดท่า-ขณะชาร์จจับ
พ่อค้ายาบ้าเมืองปทุมปืนโหดจ่อยิงปลิดชีพ จ.ส.ต.สายสืบจังหวัดนนทบุรีดับสลด พลาดท่าขณะล่อซื้อจะจู่โจมเข้าตะครุบตัวตอนเดินออกจากบ้านมาส่งยา ไอ้วายร้ายระวังตัวอยู่แล้วชักปืนลั่นไกยิงสวนเจาะอกซ้าย ล้มทรุดก่อนวิ่งเผ่นหนีไปได้ เช็กประวัติพ่อค้ายาปืนโหดเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกเมื่อ 3-4 เดือนก่อนไม่เลิกพฤติกรรมหันมาค้ายานรกต่อ ผบช.ภ.1 สั่งระดมกำลังชุดสืบสวนเร่งตามล่าตัว ลั่นคนทำผิดต้องชดใช้ ถ้าต่อสู้ขัดขืนให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
จ.ส.ต.สายสืบพลาดท่าถูกพ่อค้ายาบ้ายิงเสียชีวิตรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.ท.เกรียงไกร แสงยศ สว. (สอบสวน) สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากแพทย์ รพ.ปทุมเวช ว่า มีตำรวจถูกยิงส่งมารักษาตัวแล้วเสียชีวิต ไปตรวจสอบทราบชื่อ จ.ส.ต.อาสาฬ เกตุจำปา อายุ 32 ปี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.นนทบุรี ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าอกซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน นอกจากนี้ยังมีรอยถลอกตามร่างกายหลายแห่ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง
สอบสวนทราบว่า จ.ส.ต.อาสาฬ ผู้ตายอยู่ในชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จ.นนทบุรี เข้ามาจับยาในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ขยายผลล่อซื้อยาบ้า 2,000 เม็ดจากนายยงยุทธ์ หรือรุ่ง หว่างไพรี อายุ 27 ปี พ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 5/2 ชุมชนคลองหนึ่ง ซอยคลองหลวง 24 หมู่ 3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี พ.ต.ท.สมบัติ กานจะบุตร สว.กก.สส.ภ.จ.นนทบุรี เป็นหัวหน้าชุด วางแผนกระจายกำลังชุดสืบสวนปิดล้อมบ้านของนายยงยุทธ์ไว้ จนกระทั่งนายยงยุทธ์เดินออกมาจากบ้านเพื่อนำยาบ้ามาส่งยังจุดที่นัดหมาย จ.ส.ต.อาสาฬ ผู้ตายอยู่ใกล้ที่สุดจึงวิ่งเข้าไปจะจับกุมตัว แต่นายยงยุทธ์ระวังตัวอยู่แล้วชักปืนที่พกติดตัวออกมายิงสวนเข้าหน้าอกผู้ตาย 1 นัด จนล้มลง ก่อนวิ่งเผ่นหนีไป เพื่อนตำรวจที่มาด้วยกัน เห็นผู้ตายถูกยิงรีบช่วยพาส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
...
จากนั้นกำลังตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณสะพานปูนริมคลองหน้าบ้านของนายยงยุทธ์ พบกองเลือด โทรศัพท์มือถือ และยาบ้า 2,000 เม็ด ตกอยู่ จึงถ่ายรูปบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกัน ได้ปิดล้อมตามล่าพ่อค้ายาบ้าปืนโหด แต่ยังไม่พบตัว ตรวจสอบประวัติพบว่า นายยงยุทธ์เคยต้องคดีเล่นการพนันเมื่อปี 51 คดีจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 52 และปี 56 เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมตั้งตัวเป็นพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ กระทั่งมาก่อเหตุยิงตำรวจเสียชีวิต
ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์-เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.พงษ์ศักดิ์ เดษจำปา พ่อของ จ.ส.ต.อาสาฬ พร้อมญาติๆ และกลุ่มเพื่อนตำรวจเดินทางมารับศพ จ.ส.ต.อาสาฬ โดยนำชุดเครื่องแบบตำรวจเต็มยศมาสวมใส่ให้ศพพร้อมทั้งคลุมด้วยผ้าธงชาติไทยอย่างสมเกียรติ ก่อนนำขึ้นรถไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางไผ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดย ร.ต.พงษ์ศักดิ์ พ่อผู้สูญเสียเผยว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายไป แต่ก็ภาคภูมิใจกับการปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติของลูกชายที่ทำด้วยความมุ่งมั่น ถือว่าทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว
ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมตำรวจสืบสวนภาค 1 กว่า 40 นายและสุนัขตำรวจ กระจายกำลังออกค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมภายในชุมชนคลองหนึ่งที่เกิดเหตุ นำสุนัขดมกลิ่นเข้าไปตรวจสอบในบ้านของนายยงยุทธ์ พร้อมแกะรอยตามหาเส้นทางที่ใช้หลบหนี เบื้องต้นพบว่า นายยงยุทธ์ใช้เส้นทางออกไปยังลานจอดรถที่อยู่อีกซอย แต่ยังไม่ทราบว่าขับรถของตัวเองหลบหนีไป หรือเดินไปปากซอยแล้วขึ้นรถหลบหนีไป ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางละแวกใกล้เคียง
พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า สั่งการให้ชุดสืบสวน จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และสืบสวนภาค 1 ลงพื้นที่เร่งตามล่าตัวนายยงยุทธ์ ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญทั้งค้ายาเสพติด พกพาอาวุธปืนติดตัว และยังยิงตำรวจจนถึงแก่ความตาย กระบวนการการสอบสวนเดินทางทุกวินาทีตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ ขอฝากไปถึงใครที่คิดจะช่วยเหลือผู้ต้องหารายนี้จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย ถ้ารู้เบาะแสให้รีบแจ้งตำรวจทันที ยืนยันว่าคนที่กระทำความผิดต้องชดใช้ ถ้าคนร้ายต่อสู้ขัดขืนคงต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นได้รายงานผู้บังคับบัญชาเลื่อนเงินเดือน 5 ขั้น 4 ชั้นยศ พร้อมเงินสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมหลักล้านบาท
ที่วัดบางไผ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. นายภานุ แย้มศรี ผวจ.นนทบุรี พร้อมนายตำรวจระดับสูงและเพื่อนตำรวจกว่า 300 นาย ร่วมพิธีรดน้ำศพ จ.ส.ต.อาสาฬ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางบุญชู เกตุจำปา อายุ 50 ปี แม่ผู้ตายกล่าวทั้งน้ำตาว่า พูดคุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายตอน 4 ทุ่ม วันที่ 20 มิ.ย. ตนบอกให้กลับบ้านเพราะมีญาติเดินทางมา แต่ลูกชายบอกว่ากำลังทำงานอยู่ไปไม่ได้ คุยกันได้นิดเดียวเขาก็ขอตัวไปทำงาน กระทั่งเพื่อนลูกชายโทร.มาแจ้งข่าวร้าย รู้สึกเสียใจแต่ก็ภูมิใจในตัวลูกชาย ตนมีลูก 3 คน ผู้ตายเป็นลูกชายคนโต มีภรรยามาแล้ว 4 คน มีลูก 5 คน และอยู่ในท้องภรรยาคนสุดท้ายอีก 1 คน จะตั้งศพสวดพระอภิธรรม 5 คืน แต่ต้องปรึกษาญาติและผู้บังคับบัญชาลูกชายอีกครั้ง