อึ้ง!! พบโครงกระดูกปริศนาซุกซ่อนอยู่หลังเครื่องซักผ้าเก่า ในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ผจก.ร้าน ตะลึงรีบแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ เพราะก่อนหน้านี้ก้ได้กลิ่นเหม็นเน่า แต่ไม่เอะใจ เนื่องจากทางร้านออกโปรโมชั่นเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ได้...



เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.ท.ธีรนิติ์ กาญจนะ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานบริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในตัวเมืองสุพรรณบุรีว่า พบโครงกระดูกซ่อนอยู่ในเครื่องซักผ้า ที่บริเวณ ชั้น 2 ของตึกเลขที่ 140 ถนนมาลัยแมน ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช



ในที่เกิดเหตุ พบเศษกระดูกจำนวนมาก ถูกซ่อนใส่ถุงพลาสติกอยู่ในเครื่องซักผ้าเก่า บริเวณด้านหลังเครื่อง ซึ่งนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ผจก.ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังกล่าว ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะพบโครงกระดูกนั้น พนักงานในร้านได้ช่วยกันเคลื่อนย้ายเครื่องซักผ้าเก่า ที่มีลูกค้านำเอามาแลกเพื่อซื้อเครื่องใหม่ เพื่อย้ายลงไปเก็บในห้องเก็บของ เนื่องจากจะทำการปรับปรุงร้าน และมีการรื้อเพื่อเตรียมซ่อมหลายเครื่อง ปรากฏว่า ตอนรื้อนั้นพบว่าเครื่องซักผ้าดังกล่าวพบกระดูกซ่อนอยู่ด้านหลังเครื่องซักผ้าจำนวนมาก อยู่ในถุงพลาสติก พนักงานเห็นจึงหยิบออกมาดู และเมื่อเห็นเป็นกระดูกซึ่งไม่ทราบว่าเป็นกระดูกคนหรือกระดูกสัตว์ จึงได้รีบโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ก็เคยได้กลิ่นเหม็นเน่ามานานมาก แต่ก็นึกว่ากลิ่นหนูตายเลยไม่ได้ขึ้นมาดูเพราะชั้นบนของร้านก็เก็บอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าไว้เยอะ พอมาเจอแบบนี้ก็ตกใจ ไม่คิดว่า จะมีกระดูกปริศนามาซ่อนอยู่ในเครื่องซักผ้าเก่า และไม่รู้ว่าเป็นของใครเพราะเก็บมานานประมาณ 4-5 ปีแล้ว



...

หลัง จนท.ตำรวจได้เดินทางมาตรวจสอบเครื่องซักผ้าและให้แพทย์ได้ตรวจดูว่ากระดูกปริศนาที่พบเป็นกระดูกมนุษย์หรือ ไม่ เบื้องต้นแพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ จึงได้นำชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมด ส่งชันสูตรทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ต่อไป 



ด้านร.ต.ท.ธีรนิติ์ กาญจนะ รอง สว.สอบสวน กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าร้านนี้เปิดกิจการมาแล้วหลายปี ซึ่งทางบริษัทได้มีโปรโมชั่นที่ให้ลูกค้านำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่ามาตีเทิร์นของใหม่ โดยเครื่องซักผ้าที่พบชิ้นส่วนกระดูกนั้น เป็นเครื่องเก่าที่อยู่บนตึกนี้มานาน 4-5 ปีแล้ว และทางร้านเพิ่งจะมาทำการรื้อซ่อม เพื่อขนย้ายไปยังจุดอื่น ซึ่งเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นกระดูกของมนุษย์หรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจชันสูตรก่อน หากพบว่าเป็นกระดูกของมนุษย์จริง ก็ต้องมีแนวทางการสืบสวนต่อ ว่าเครื่องซักผ้านี้ ใครเป็นผู้นำมาซึ่งผ่านนานถึง 4-5 ปีแล้ว คงต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ และสอบประวัติ แต่คงต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ก่อนว่าเป็นกระดูกอะไรกันแน่.