ตำรวจไล่ล่าไอ้หมึก ลากหน้าสาววัย 16 ปี ไปข่มขืนที่ท่อระบายน้ำใต้สะพานนเรศวร ก่อนคนหาปลามาช่วยเหลือ แต่ไอ้หมึกไหวตัวหลบหนีไปตามท่อระบายน้น้ำเมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่หาตัวนานกว่า 3 ชม.ไม่เจอ
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2561 ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ รอง สว.(สอบสวน) สภ. เมืองพิษณุโลก รับแจ้งหตุมีคนร้ายข่มขืนหญิงสาวและทำร้ายร่างกาย ก่อนมีพลเมืองดีช่วยเหลือไว้ที่บริเวณใต้เชิงสะพานนเรศวร ฝั่งตะวันตกหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจชุดสืบสวน พบ นายสัญญา หล่อเนาวรัตน์ อายุ 30 ปี และภรรยา รออยู่ริมฟุตบาทใกล้กับเชิงสะพานพร้อมกับ น.ส.ก้อย (นามสมมติ) ที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอม มีบาดแผลที่ปาก ฟันหัก และศีรษะแตก เนื่องจากถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีจนได้รับบาดเจ็บ

...
ตำรวจสอบสวนเบื้องต้น น.ส.ก้อย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นมานั่งเล่นที่บริเวณริมน้ำหน้าวัดใหญ่เพื่อรอแฟนหนุ่มที่ไปธุระในตัวเมืองกับพี่ชายและเพื่อน นายสมชาย เย็นจิตร หรือ หมึก อายุ 44 ปีชาวจ.อุตรดิตถ์ ที่อยู่ในสภาพเมาสุราได้มาพูดหยอกล้อและพยายามจะลวนลาม ตนจึงเดินหนีมาบริเวณใต้เชิงสะพาน นายหมึกก็ตามมาและทำร้ายร่างกาย โดยได้ใช้ขวดเหล้าขาวตีที่หัวตนได้รับบาดเจ็บ แล้วลากตนไปที่ปากท่อทะบายน้ำริมตลิ่งแม่น้ำน่าน แล้วบีบคอไม่ให้พูดและข่มขืนตน ต่อมาตนเห็นคนหาปลาผ่านมาก็ร้องขอความช่วยเหลือ พอคนหาปลามาช่วยเหลือตนออกมาจากปากท่อระบายน้ำได้ นายหมึกก็รีบวิ่งหนีเข้าไปในท่อระบายน้ำอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สวมกางเกง

ด้าน นายสัญญา หล่อเนาวรัตน์ คนหาปลา ที่มาเห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนเองก็มาหาปลากับภรรยาตามปกติ แต่เห็นผู้ชายผู้หญิงกำลังมีอะไรกันที่บริเวณปากท่อระบายน้ำ ตอนแรกนึกว่าเป็นผู้หญิงขายตัว เลยไม่อยากยุ่ง เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ตนได้ยินหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงส่องไฟดูแล้วตะโกนถามว่ามีอะไรกัน ทำให้นายสมชาย หรือ หมึก วิ่งหนีเข้าไปในท่อระบายน้ำ โดยไม่สวมกางเกง ตนจึงเรียก น.ส.ก้อย ออกมาจากปากท่อระบายน้ำทั้งที่อยู่ในสภาพเปลือยกายท่อนล่าง เลยเดินไปนำเอากางเกงที่ถูกถอดมาให้ใส่ ส่วนกางเกงของนายสมชายผู้ก่อเหตุ ได้เก็บไว้ให้กับตำรวจด้วย โดยภายในกางเกงมีบัตรประจำตัวประชาชนอยู่
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.ก้อย ไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกข่มขืนที่ รพ.พุทธชินราช ทันที และตำรวจสายตรวจชุดงานป้องกันและปราบปรามได้วางกำลังเฝ้าปากท่อระบายน้ำนานกว่า 30 นาที นายสมชายหรือหมึกก็โผล่ออกมา พอเห็นตำรวจก็ย้อนกลับเข้าไปในท่อระบายน้ำอีก พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก ได้เดินทางตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งนำตัวคนร้ายออกมาจากท่อระบายน้ำโดยเร็วที่สุด เนื่องจากภายในท่อระบายน้ำมีแต่กลิ่นเหม็นและอับอากาศ หวั่นเกรงว่าคนร้ายจะขาดอากาศหายใจ

ตำรวจยังได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก เพื่อให้ใช้เครื่องออกซิเจน เข้าไปดูนายสมชายตามท่อระบายน้ำ ทั้งการส่องไฟตามท่อระบายน้ำบนถนน และเดินเข้าไปในท่อระบายน้ำในรัศมีกว่า 100 เมตรตามทิศทางของท่อ ใช้เวลานานกว่า 3 ชม. ก็ยังไม่เจอตัว ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการค้นหานายสมชายและรอค้นหาใหม่ในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจเฝ้าปากท่อระบายน้ำไว้ หากนายสมชายกลับออกมาจะได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
...