แม่ชีชาวบางระจัน ป่วยโรคซึมเศร้า มีอาการทางจิต โดดตึก 9 ชั้นโรงพยาบาลสิงห์บุรีดับอนาถ เผยก่อนตายโทรบอกญาติ มีเสียงกระซิบสั่งว่าไม่ให้มีชีวิตอยู่...
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2561 ร.ต.อ.จิรเดช ดวงรัศมี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีผู้กระโดดตึกที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี พร้อม พ.ต.ท.ชาติชาย ภักดิ์บุตร รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสิงห์บุรี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ แพทย์เวร และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.สิงห์บุรี ไปตรวจที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุเป็นระเบียงลานปูนชั้นลอยด้านหลังตึกอาคารหลวงพ่อแพ 9 ชั้น บริเวณชั้นที่ 2 พบร่าง แม่ชีโฉมยา คุ่ยจาด อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 4 ตำบลสระแจง อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ทราบภายหลังว่าเป็นแม่ชีที่วัดราษฎร์บำรุงหนองลี หมู่ 1 ตำบลโพทะเล อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพแขนและขาหักทั้งสองข้าง กะโหลกศีรษะแตก มันสมองไหลออกมากระเด็นไปทั่วบริเวณ ภายในตัวพบเงินอยู่ 60 บาท และแว่นสายตา 1 อันที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่ชั้น 9 บริเวณทางหนีไฟซึ่งอยู่ด้านหลังอาคาร พบรองเท้าแตะสตรี 1 คู่ และย่ามสีขาวพร้อมผ้าสไบสีขาววางกองอยู่กับพื้น ตรวจสอบมีเอกสารเป็นบัตรประจำตัวประชาชน เงินสด จำนวน 300 บาท โทรศัพท์มือถือ และบัตรผู้ป่วยจากโรงพยาบาลสิงห์บุรี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้โทรศัพท์ที่พบติดต่อไปยังเบอร์สุดท้ายที่โทรออกพบว่าเป็นญาติของแม่ชี ผู้ตาย ชื่อ นางเอกปรีญา คุ่ยจาด อายุ 46 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลสระแจง อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมให้มาสอบปากคำที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี เมื่อ นางเอกปรีญา มาถึงได้เล่าให้ฟังว่า ตนมีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้ แม่ชีโฉมยา ผู้ตาย บวชชีตั้งแต่อายุ 19 ปี เป็นผู้ใฝ่ในธรรมะ ไม่มีครอบครัว ก่อนหน้านี้จำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กระทั่งเมื่อ ปี 2557 ได้เริ่มมีอาการป่วย จึงเดินทางกลับมาอยู่ที่วัดราษฎร์บำรุงหนองลี อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อรักษาอาการป่วยเป็นโรคชักกระตุกและมีอาการทางจิต ซึมเศร้า
...
ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แม่ชีโฉมยา ผู้ตาย ได้เหมารถเดินทางมาที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี เพื่อรักษาตัวกระทั่งช่วงบ่ายก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่า มีเสียงกระซิบสั่งว่าไม่ให้มีชีวิตอยู่ พร้อมบอกตนว่า อยู่ไม่ได้แล้วให้มารับศพด้วย ตนพยายามบอกว่าให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวจะรีบไปหา แต่แม่ชีโฉมยาก็วางหูไป ตนรีบโทรเข้าโรงพยาบาลบอกให้ทางโรงพยาบาลไปช่วยดูแม่ชีว่ากำลังจะโดดตึก แต่ก็ไม่ทันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรกลับมาว่า แม่ชีโฉมยา ตัดสินใจกระโดดตึกลงมาเสียชีวิตไปก่อนแล้ว สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นแม่ชีขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 6 แล้วเดินไปที่ทางหนีไฟด้านหลัง คาดว่าแม่ชีเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปจนถึงชั้น 9 ก่อนที่จะกระโดดลงมาเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตขอนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.