เนติวิทย์ โชว์นาฬิกายืมเพื่อนมา 14 เรือน เสียดสีการเมือง บอกเพื่อนที่ให้ยืมมามีชีวิตอยู่ทุกคน ระหว่างมาผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร หนุนใช้ระบบสมัครใจ ไม่ใช่ใช้บังคับ 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 เม.ย.61 นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 22 ปี นิสิตคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางมายังหน่วยคัดเลือกทหาร วัดราษฎร์โพธิ์ทอง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อรายงานตัวและยื่นเอกสารการขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ต่อเป็นปีที่ 2 โดยนายเนติวิทย์ มีรายชื่อในบัญชีคุมรับหมายเรียก (แบบ สด.35) คนผ่อนผัน ลำดับที่ 250

บรรยากาศ หลังจากเดินทางมาถึงนายเนติวิทย์ ได้ตรวจสอบรายชื่อของตนเองก่อนที่จะเข้าแถวยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ทหาร ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและทักทายกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวตามปกติ พร้อมกับได้ชูนาฬิกาซึ่งสวมที่ข้อมือข้างขวา จำนวน 5 เรือน ที่ได้นำติดตัวมาด้วยให้สื่อมวลชนดู พร้อมกับได้พูดเสียดสีว่า นาฬิกาทั้งหมดตนเองได้ยืมเพื่อนมา เนื่องจาก ตนไม่ชอบใส่นาฬิกา และยังมีในกระเป๋าอีก จำนวน 9 เรือน รวมเป็น 14 เรือน โดยเพื่อนที่ให้ยืมก็ยังมีชีวิตอยู่ทุกคน ก่อนที่นายเนติวิทย์ จะต่อแถวปั๊มลายนิ้วมือและเซ็นชื่อ การขอผ่อนผันในการตรวจเลือกเข้ารับการเกณฑ์ โดยให้เหตุผลว่าศึกษาอยู่

...

ส่วนบรรยากาศโดยรอบหน่วยคัดเลือกทหาร เพื่อนชาย ซึ่งสวมเครื่องแบบนิสิตจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเดินทางมากับนายเนติวิทย์ ได้นำแบบสอบถาม ซึ่งมีข้อความในกระดาษว่า 1. เราควรเปลี่ยนระบบเกณฑ์ทหารจากระบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ และข้อความที่ 2. กองทัพควรรับรองว่า พลทหารจะไม่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างเกณฑ์ทหาร 100% โดยทั้งสองข้อ มีช่องให้กากบาท เห็นด้วย กับไม่เห็นด้วย ออกเดินแจกให้กับผู้ที่มารอเกณฑ์ทหาร และผู้ปกครองที่มาร่วมสังเกตการณ์ เพื่อให้แสดงความคิดเห็น และหย่อนใส่กล่องที่ได้เตรียมมา ก่อนที่จะนำไปนับคะแนนเสียงต่อหน้าสื่อมวลชน โดยข้อแรก เห็นด้วย 144 คน ส่วนข้อสอง 157 คน จากทั้งหมด 169 ใบ

นายเนติวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนเองก็ได้มาแสดงเจตจำนง ในการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารต่อกันอีก 1 ปี โดยจุดยืนของตนนั้นก็ยังเหมือนเดิมคือ ขณะนี้หมดยุคหมดสมัยที่จะมาเกณฑ์ทหาร ซึ่งมีลักษณะเหมือนไพร่เหมือนทาส เพื่อนำไปถูกใช้แรงงาน ถูกล่ามโซ ถูกฝึก ธำรงวินัย จนเสียชีวิต ถึงเวลาจะรักชาติในยุคใหม่ให้เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันคนไทยมีศักยภาพ ควรจะไปพัฒนาชาติในทางด้านอื่นมากกว่า จากนั้นนายเนติวิทย์ ได้ให้เพื่อนชูป้ายกระดาษ ซึ่งมีรูป ธนบัตร นาฬิกาข้อมือ ช้อนส้อม พวงหรีด และเครื่องตัดหญ้า ซึ่งมีข้อความว่า เกณฑ์ทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด พร้อมกับได้โชว์ นาฬิกาที่สวมบนข้อมือทั้ง 14 เรือนที่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เสียดสีการเมือง และให้สัมภาษณ์เพิ่มว่าเราเกณฑ์ทหารไปเพื่อใคร เพื่อคนคนนี้หรือเปล่า ที่เคยบอกว่าให้ทหารรักชาติ แต่ตนเองไม่มีจุดยืนทางคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม และแบบนี้ถ้าเราไปเป็นทหารเกณฑ์และรับใช้ใครอยู่ เราต้องการสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ที่อยากเห็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เราต้องยกเลิกระบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากสื่อมวลชนไปถามคนที่มีชื่อเสียงทางสังคมและดาราด้วยว่า เกณฑ์ทหารมีประโยชน์หรือเปล่า ถ้ามีประโยชน์จริง อย่างงั้นทำไมไม่ไปเป็นทหารสัก 2-3 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ที่เห็นสมัครใจไปนั้นเต็มที่ก็ประจำการอยู่เพียง 6 เดือน จึงเห็นได้คนส่วนใหญ่ที่มารอเกณฑ์นั้นไม่เต็มใจ เราควรจะเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ที่มีต่อเนื่องกันมา 100 กว่าปี เปลี่ยนให้ทันสมัยได้แล้ว ทำไมยังต้องทำแบบนี้อยู่ ก่อนที่จะเดินทางกลับ