คงปล่อยให้จบง่ายๆไม่ได้ คดี “เสือดำ” ที่สังคมกำลังจับตามอง หลายฝ่ายยังไม่ยอมหยุด จะดำเนินคดีกับ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัดกับพวก ให้ถึงที่สุด
เริ่มจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เตรียมฟ้องร้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากผู้ต้องหา ซึ่ง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ประเมินราคาเสือดำ 1 ตัว อายุราวๆ 5 ปี เป็นสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์
อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 ไซเตส
ห้ามค้าขายโดยเด็ดขาด คิดค่าเสียหายเสือดำตัวละกว่า 3 ล้านบาท
ส่วนไก่ฟ้าหลังขาว ตัวละ 22,612 บาท
แต่เป็นเพียงความเสียหายด้านสัตว์ป่า
ยังไม่รวมความเสียหายระบบนิเวศทั้งระบบ ที่ยังคิดเป็นมูลค่าไม่ได้
กรมอุทยานฯเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
การฟ้องแพ่งชดใช้ค่าเสียหายครั้งนี้ เป็นคดีแรกของกรมอุทยานฯ
ส่วนอีกกลุ่มที่เคลื่อนไหวยังไม่ยอม ตามคดี “เสือดำ” อย่างต่อเนื่อง คือ กลุ่มทีชัลลา จัดกิจกรรมรวมพลคนพันธุ์เสือดำ ครั้งที่ 5 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
กดดันประเด็นความเป็นอิสระของพนักงานสอบสวนที่ทำคดี
พร้อมประกาศจะยกพลไปรวมตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที
หากอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี
กลุ่มนี้ยังมีข้อกังขาการทำคดีของตำรวจยิ่งอัยการภาค 7 สั่งคืนสำนวนให้สอบสวนเพิ่มเติมยิ่งทำให้กังวลใจว่าคดีจะยกฟ้องกลุ่มประกาศนัดรวมพล “วันป่าประท้วง” เคลื่อนขบวนมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
...
บอกเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การฆ่าเสือดำ แต่มันเป็นการฆ่ากฎหมาย และเสือดำต้องไม่ตายฟรี
เป็นสถานการณ์ล่าสุด “คดีเสือดำ” ที่ยังไม่จบ
กลายเป็นบทเรียนของตำรวจในการทำสำนวนคดีทุกคดี
เพราะหากจุดประเด็นผลตัดสินคดีนี้ติดไปแล้ว อาจจะลุกลามมากกว่านี้ได้อีก
น่าเป็นห่วงคดี “เสือดำ” บานปลาย.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th