"ชัยวัฒน์" ให้ปากคำเพิ่มคดีเปรมชัด ทำแผนที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด ให้พนักงานสอบสวน ยันไม่ได้ติดใจหรือขัดแย้งใดๆ กับ "ศรีวราห์" ด้านตร.ทองผาภูมิ เร่งรวบรวมหลักฐาน คาด 13 มี.ค. สำนวนสมบูรณ์..

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก เข้าป่าล่าสัตว์ยิงเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตก โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นได้ให้ถ้อยคำการเก็บหลักฐานจุดเกิดเหตุ หลังจากได้ส่งบันทึกจับกุมดำเนินคดีกับนายเปรมชัย ไว้เบื้องต้นแล้ว

นอกจากนี้ได้จัดทำแผนที่แสดงจุดเกิดเหตุ และผังสิ่งของอุปกรณ์กระทำความผิดและซากสัตว์ป่าต่างๆ รวมทั้งจุดซุกซ่อนปืนอย่างชัดเจนมอบให้กับพนักงานสอบสวน

รวมถึงนายชัยวัฒน์ ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยนายชัยวัฒน์ แจ้งว่ามิได้ติดใจหรือขัดแย้งแต่อย่างใดกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ แม้กระทั่งการแนะนำในข้อกฎหมายต่างๆ ยินดีน้อมรับมาปฏิบัติ หรือข้อที่จะต้องดำเนินไปตามชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งบางอย่างไม่สามารถนำมาเป็นพยานในชั้นสอบสวนได้จึงตัดบางอย่างออกไป

สำหรับหลักฐานที่นายชัยวัฒน์ นำมาเพิ่มเติมได้เป็นประโยชน์ เช่น เศษเขียง เลือดบนไม้ไผ่ เครื่องใน ลำไส้ใหญ่ กระดูกขาหลังขวา อุจจาระ เลือดบนใบไม้ ร่องรอยกระสุนปืน และการทำผังแสดงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งหมด ยกเว้นแนววิถีกระสุนปืนไม่สามารถหาจุดยืนยิงได้ จึงไม่ครบองค์ประกอบ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้ความเห็นควรนำออกไป ซึ่งทั้งสองได้พูดคุยกันแบบพี่แบบน้อง

...

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการพูดคุยกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่า นับถือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เหมือนพี่ เพราะเคยสอนงาน เรื่องการดำเนินคดีมามาก จึงไม่เคยคิดติดใจ อะไรที่อาจจะดุ เพราะจริงๆ แล้ว ถือว่าเป็นการสอนในเรื่องการทำงาน และยังบอก พล.ต.อ.ศรีวราห์ ห้ามไปดุเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เพราะไม่เคยทำงานด้วยกัน และอาจจะดูเป็นคนเสียงดัง ซึ่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ สามารถดุได้เฉพาะตนเท่านั้น คนอื่นห้ามดุ

ทั้งนี้ได้มอบแผนผังแสดงจุดเกิดเหตุ เป็นเอกสาร 28 หน้า ซึ่งเมื่อได้ตรวจสอบกับแผนที่ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานพบว่าตรงกัน พร้อมขอยืนยันเรื่องความขัดแย้ง ทั้งสองหน่วยงานไม่มีแน่นอน เพราะกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีเป้าหมาย เพื่อหาหลักฐานมามัดตัวผู้ต้องหาให้ถูกลงโทษตามกฏหมาย

ขณะที่ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด คาดว่าในวันอังคารที่ 13 มี.ค.61 นี้ สำนวนจะเสร็จสมบูรณ์ส่งต่ออัยการจังหวัดทองผาภูมิ ทันที ทั้งนี้ทุกฝ่ายกำลังดำเนินการอย่างรีบเร่งแต่ต้องรอบคอบ ภายใต้การดำเนินการให้ข้อแนะนำจากพล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ได้มาเป็นประธานตรวจสำนวนและเร่งรัดให้รอบคอบรัดกุม.