อธิบดี สถ.-ดร.วันดี ลงพื้นที่ รังสิต ตรวจเยี่ยมศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัด คลองสิบสอง ชมเป็นตัวอย่างที่ดี ช่วยลดภาระสังคม จัดระเบียบสิ่งแวดล้อม ป้องกันโรคจากสุนัขแพร่สู่คนในชุมชน เล็งผลักดันเป็นต้นแบบ อปท.อื่นๆ
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 61 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานชมรมแม่บ้านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัด ภายใต้โครงการ "สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย" ตามปณิธาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัด คลองสิบสอง เทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนให้มีความสุข ซึ่งหมายรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมด้วย และการบริหารจัดการสุนัขจรจัดนี้ จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลประชาชนเช่นกัน เพราะสุนัขอาจจะนำโรคต่างๆ มาสู่คน และสร้างความทุกข์ร้อนใจให้แก่ประชาชนได้ หากเรามีการดูแลที่ดีก็จะช่วยลดภาระทางสังคม ลดการรบกวนของสุนัขจรจัดที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ได้ และจากการที่เทศบาลนครรังสิต ได้ดำเนินการศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัดคลองสิบสองนี้ ก็เห็นได้ว่ามีการบริหารจัดการที่ดี มีความร่วมมือกันระหว่างภาคประชาชน หน่วยงานรัฐบาล เป็นสถานที่สำหรับควบคุมดูแลสุนัขจรจัดในเขตเทศบาล ที่ไปสร้างความเดือดร้อน และก่อปัญหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ดำเนินการได้เช่นนี้ต่อไป เพื่อให้สามารถเป็นต้นแบบที่ดี สามารถกระจายแนวทางในการดำเนินการเช่นนี้ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ขอให้ได้ภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อน ผลักดันให้เกิดศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัด คลองสิบสอง ซึ่งกรมฯ จะผลักดันให้ศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัดคลองสิบสอง เทศบาลนครรังสิตนี้ สามารถเป็นต้นแบบให้กับทุกๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้โดยเร็ววัน
...

ด้าน ดร.วันดี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม การบริหารจัดการของศูนย์พึ่งพิงสุนัขจรจัดคลองสิบสอง เทศบาลนครรังสิต ก็ขออนุโมทนาบุญทุกท่านที่มาร่วมทำกิจกรรมดีๆ ให้แก่สังคม ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทางเทศบาลนครรังสิต จะเป็นตัวอย่างในการนำร่องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ได้นำไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการและช่วยเหลือสุนัขจรจัด ช่วยแบ่งเบาภาระทางสังคม นำมาบริหารจัดการให้ดี เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ปลอดภัยจากโรคต่างๆ ที่อาจจะติดมากับสุนัขจรจัดต่อไปได้
นอกจากนี้ นายสุทธิพงษ์ ได้ฝากถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องของการหาวิธีช่วยเหลือ และมอบความรักให้แก่คนในท้องถิ่น เช่น การดูแลเด็กเล็ก และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้ได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเด็กไม่มีทุนการศึกษา คนเป็นโรคป่วยเรื้อรังต่างๆ ถ้าหากช่วยกันบูรณาการอย่างเป็นระบบ โดยความร่วมมือของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครต่างๆ รวมถึงสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล ก็จะช่วยให้เรามีฐานข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ด้วยความตั้งใจ ทำด้วยความรักและความปรารถนาดี ติดตามผลการดำเนินการ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันท่วงที และรวดเร็ว สำหรับอีกเรื่องที่อยากฝากไว้ก็คือ การพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีการจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ มุ่งหวังให้เด็กเล็กได้รับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา มีความพร้อมที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับการศึกษาขั้นต่อไป ให้เด็กสามารถเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกรมฯ ได้ตระหนักว่า เด็กเล็กที่อายุระหว่าง 2-5 ปี เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาชีวิต จึงจะผลักดันให้มีแนวทางในการเปิดรับดูแลเด็กเล็กตลอดทั้งปี (ไม่มีปิดเทอม) เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ทุกๆ วัน อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผู้ปกครองสามารถไว้วางใจเมื่อลูกหลานมาอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของท้องถิ่น และให้ทุกคนในสังคม ร่วมกันเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ช่วยกันพัฒนาการศึกษาของลูกหลานเราให้กว้างไกล ร่วมกันสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน เพราะพลังของการขับเคลื่อนเหล่านั้น จะสามารถเป็นแรงหนุนให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ขยายวงของการพัฒนาการศึกษาของให้มีความยั่งยืนและกว้างไกลได้