รวบ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาล เป็นโจรบุกจี้ชิงเงินแบงก์กรุงไทยได้เงินไปร่วม 6 แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยตามภาพวงจรปิดพบคนร้ายขี่ จยย.ต้องสงสัยเข้าไปในหมู่บ้านในพื้นที่ ระดมกำลังปิดล้อมตรวจค้นทุกหลัง ขณะผู้ต้องหาทำเนียนมาช่วยตำรวจตามหาคนร้ายในหมู่บ้านด้วย สุดท้ายไม่รอด พบรถ จยย.พาหนะที่ใช้ก่อเหตุอยู่ในบ้าน สอบสวนรับสารภาพนำเงินที่ได้มาไปใช้หนี้พนันหมด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ อาจนำไปซ่อนไว้ที่อื่น

กรณีคนร้ายขาเป๋ใช้ปืนพกสั้นบุกเดี่ยวจี้ชิงเงินธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้ โลตัสบางวัว ริมถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.41 หมู่ 2 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เงินร่วม 6 แสนบาท ซิ่ง จยย.หลบหนีไป เมื่อเย็นวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนตามแกะรอยกล้องวงจรปิดจนจับกุมคนร้ายได้โดยเมื่อสายวันที่ 3 ก.พ.ที่ สภ.บางปะกง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 นายสุวิทย์ คำดี ผวจ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.อ.จักรพงษ์ พันธุ์มงคล ผบ.ร.112 พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.บางปะกง และ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผกก.กก.สส.ภ.จ.ฉะเชิงเทราแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้ โลตัสบางวัว

โดยจับกุมนายรุ่งโรจน์ หรือเก่ง บุญประกอบ อายุ 48 ปี ตำแหน่งผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลบางสมัคร อ.บางปะกง ระดับ 7 พร้อมของกลางปืนพกขนาด 9 มม. หมายเลขประจำปืน T629-08-A029904 หมายเลขทะเบียน กท 5231929 จำนวน 1 กระบอก เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม หมวกกันน็อกสีดำ 1 ใบ หมวกไหมพรมคลุมหน้า 1 ใบ และรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 835 ฉะเชิงเทราที่ใช้ในวันก่อเหตุและสกอตช์เทปพันสายไฟสีดำที่คนร้ายใช้ติดรอบรถเพื่ออำพรางในการหลบหนี

...

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.บางปะกง และชุดสืบสวน ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ออกหาข่าวและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี จนพบรถผู้ต้องสงสัยขี่เข้าไปในหมู่บ้านสุขุมวิท 1 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านทั้งหมด 270 หลัง และพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยในบ้านเลขที่ 1/5 หมู่บ้านสุขุมวิท 1 ของผู้ต้องหา สภาพมีคราบคล้ายเพิ่งลอกสติกเกอร์ออกรอบคันจึงนำรถมาตรวจสอบและเชิญตัวนายรุ่งโรจน์ หรือเก่ง เจ้าของบ้านมาสอบสวนและยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่บุกจี้ชิงเงินธนาคารกรุงไทยจริง

ด้านนายรุ่งโรจน์ ผู้ต้องหากล่าวว่า ตนไม่ได้ขาเป๋แต่ที่เดินขาเป๋นั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุที่ลงมือเพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้สินจากการพนัน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านและรีบแกะเทปพันสายไฟที่แปะติดไว้รอบรถออกแล้วนำเทปไปโยนทิ้งไว้หลังบ้าน ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้หนี้ให้เจ้าหนี้หมด ในช่วงเย็นวันเดียวกันแล้ว โดยนัดมารับเงินที่ตลาดล่างบางปะกง หมู่ 10 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จากนั้นรีบกลับบ้านทำตัวตามปกติ “ผมทำลงไปเพราะความคิดชั่ววูบ ก่อนลงมือ 1 วัน ได้ติดสกอตช์เทปพันสายไฟสีดำรอบคันรถจักรยานยนต์ของลูกชาย มีความคิดเพียงอยากหาเงินมาใช้หนี้ที่ติดค้างเจ้าหนี้เท่านั้น ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุไม่ได้ใส่กระสุนเพียงใช้ขู่ รปภ.ธนาคาร พนักงานและพลเมืองดีที่วิ่งไล่ติดตามหลังก่อเหตุเท่านั้น และผมไม่ได้เป็นคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงเงินธนาคารทหารไทยสาขาบางวัว เมื่อปี 2557-2558 แต่อย่างใด” นายรุ่งโรจน์กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านเพื่อตามตัวคนร้ายนั้น นายรุ่งโรจน์ ผู้ต้องหาทำตัวเนียนมากยังออกมาเดินช่วยตามหาคนร้ายภายในหมู่บ้านด้วยแต่กลับไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ค้นบ้านตัวเองอ้างมีหน้าที่การงานระดับสูงและดูแลพื้นที่ดังกล่าวแต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเลยไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดฉะเชิงเทราจึงสามารถเข้าตรวจค้นบ้านพบของกลางจำนวนมากจึงเชิญตัวมาสอบปากคำและยอมรับสารภาพในที่สุด

เบื้องต้นแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมโดยมีและใช้อาวุธและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาตพร้อมสอบขยายผลหาตัวเจ้าหนี้ที่ผู้ต้องหาอ้างนำเงินไปใช้หนี้พนันและสอบสวนคดีจี้ชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทยสาขาบางวัวถึง 2 ครั้ง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาว่าผู้ต้องหารายนี้มีส่วนหรือไม่เพราะมีลักษณะและพฤติกรรมการลงมือคล้ายกัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายรุ่งโรจน์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้ โลตัส บางวัว เริ่มจากใช้ปืนบุกจี้พนักงานที่เคาน์เตอร์ ก่อนกระโดดข้ามไปกวาดเงินในลิ้นชักตามเคาน์เตอร์ต่างๆ ได้เงินสดไปทั้งสิ้น 593,890 บาท ก่อนวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ด้านนอกหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหานำเงินที่ได้ไปใช้หนี้หมดอาจนำไปซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่ง