คุมตัวอดีตผัวโหดไปทำแผนสังหารอดีตเหยี่ยวข่าวสาวเซ่นคืนพระจันทร์เลือด ผู้ต้องหายอมรับก่อนมาง้อขอคืนดีเมียเก่าได้ดื่มเหล้าจนมึนเมาขาดสติ พอเห็นฝ่ายหญิงไม่ไยดีเลยโมโหรัวยิงจนหมดโม่ สำนึกได้และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป “รองผู้การปากน้ำ” ระบุข้ออ้างของมือฆ่าที่บอกว่าป่วยซึมเศร้า ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์มายืนยัน
ที่บ้านเลขที่ 86/234 หมู่บ้านพฤกษา 86 หมู่ 2 ถนนวัดศรีวารีน้อย ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.พ. พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง พร้อมกำลังตำรวจ สภ.บางเสาธง นำตัวนายยงยันต์ จันทะสะเร วัย 38 ปี อดีตพนักงานขับรถบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางพลี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ปืนลูกโม่ .38 ยิง น.ส.เหมือนแพร ศรีสุวรรณ อายุ 33 ปี พนักงานบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง และอดีตนักข่าวเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ก.พ. ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางชาวบ้านมุงดูแน่นขนัดระหว่างทำแผนฯ นายยงยันต์ได้รับสารภาพเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุได้มาง้อขอคืนดีกับอดีตภรรยา โดยยืนคุยอยู่ด้านหน้าประตูกระจก ส่วนสาเหตุที่ลั่นไกเนื่องจากเกิดความหึงหวงที่ น.ส.เหมือนแพร ไม่ยอมคืนดีและมีคนรักใหม่ ประกอบกับขณะก่อเหตุมีอาการเมาสุราเลยยิงไปทั้งหมด 6 นัด ตอนนี้สำนึกได้และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าดื่มสุราจนมึนเมา ได้นั่งรถแท็กซี่มาลงที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน ก่อนเดินเข้าตามช่องทางปกติโดยไม่ได้แลกบัตร เพราะเคยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาก่อน พร้อมเตรียมประแจมาไว้งัดเข้าบ้านหากผู้ตายไม่ยอมเปิด จากนั้นปีนเข้าบ้านแล้วยืนพูดคุยกับผู้ตายผ่านประตูกระจกหน้าบ้าน แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนดีด้วย จึงใช้ปืนที่นำติดตัวมายิงใส่ผู้ตาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือถูกเศษกระจกบาดช่วงยิงผ่านทะลุกระจก หลังก่อเหตุปีนบ้านหลบหนีนำปืนไปโยนทิ้งที่ป่าหญ้าหน้าหมู่บ้าน เมื่อสร่างเมาและสำนึกผิดได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง สาเหตุเป็นไปตามที่ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เคยใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาจดทะเบียนสมรสถูกต้องกันมาก่อน และหย่าขาดจากกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ผู้ต้องหายังคงตามง้อขอคืนดีมาตลอด
...
พ.ต.อ.วิชิตกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาบอกว่ามีอาการซึมเศร้าหรือมีอาการทางสมองนั้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ยังไม่มีเอกสารทางการแพทย์มายืนยันแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการครอบครองอาวุธปืน ผู้ต้องหาให้การว่าซื้อต่อมาจากเพื่อนสนิท ตำรวจจะสืบสวนถึงเรื่องใบอนุญาตครอบครองต่อไป และหลังทำแผนตำรวจได้นำตัวนายยงยันต์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ล่าสุด เวลา 19.40 น. นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิฯ เดินทางมาที่ศาลา 9 วัดนวลจันทร์ ร่วมแสดงความเสียใจ และพบกับญาติของ น.ส.เหมือนแพร เพื่อแจ้งสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออาชญากรรมฯ เบื้องต้นนายเกิดโชคมอบเงินส่วนตัวเพื่อช่วยเหลืองานศพส่วนหนึ่ง นายเกิดโชคกล่าวว่า เมื่อทราบข่าวเรื่องนี้ไม่นิ่งนอนใจ รีบมาแจ้งถึงสิทธิของเหยื่อในคดีอาชญากรรม เช่น ถูกทำร้ายหรือถูกกระทำ สามารถรับการช่วยเหลือเป็นเงินจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรมได้ ส่วนจำนวนเงินจะได้เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่ทางคณะกรรมการพิจารณา หากบาดเจ็บทั่วไป จะคำนวณเรื่องค่ารักษาพยาบาลการขาดรายได้ตามจริง แต่เคสนี้เนื่องจากเสียชีวิต คาดว่าจำนวนเงินที่ทางรัฐเยียวยาประมาณ 100,000 บาท
“กรณีน้องทรายอาจจะได้ประมาณ 110,000 บาท ส่วนระยะเวลานั้นปกติแต่ละคดีจะใช้เวลาไม่เกิน 45 วัน ในการพิจารณา ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนทั่วไป ที่ยังไม่ทราบถึงสิทธินี้ กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะให้สถานีตำรวจท้องที่ทั่วประเทศ แจ้งสิทธิให้ประชาชน หากตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม” นายเกิดโชคกล่าว