ตำรวจรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ผู้ต้องหา 28 คน ทั้งหมดเป็นชาวไทยรับจ้างเปิดบัญชี พร้อมของกลางสมุดบัญชีและบัตรกดเงินสดหลายรายการ หัวหน้าแก๊งเป็นหนุ่มใหญ่วัย 65 ปี เป็นบุคคลไม่มีสัญชาติ ถูกจับที่สนานวรรณพาเลช อ.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ พบลักลอบเข้ามาอยู่ในเมืองไทยราว 20 ปี ร่วมกับนายทุนชาวไต้หวันตั้งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศตุรกี และเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จัดหาชาวไทยทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แถมจัดหาบัญชีสำหรับโอนเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอก กระทั่งศาลออกหมายจับแล้วทั้งหมด 41 คน ยังหลบหนีอีก 13 คน สอบสวนผู้ต้องหายอมรับสิ้น

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติพร้อมของกลางเพียบรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ม.ค. ที่ บก.ภ.จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.1 บช.ทท. พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมกำลัง แถลงจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ผู้ต้องหา 28 คน ทั้งหมดเป็นชาวไทยทำหน้าที่เป็นผู้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมของกลางสมุดบัญชี และบัตรกดเงินสดหลายรายการ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีพฤติกรรมโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์หลอกลวงประชาชน ตำรวจท่องเที่ยวจึงได้เปิดสายด่วน 1155 เพื่อเป็นช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ กระทั่งได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายหลายรายว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.เข้ามาหลอกลวง เลยมอบหมายให้ชุดสืบสวนรวบรวมข้อมูลและหาความเชื่อมโยงของผู้กระทำความผิด

...

รอง ผบช.ทท.กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมนายสมชาย แซ่ฉี อายุ 65 ปี บุคคลไม่มีสัญชาติ หัวหน้าแก๊งได้ที่สนานวรรณพาเลช ถนนสุขาภิบาล 5 ต.บางพลี อ.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ พร้อมสมุดบัญชี บัตรกดเงินสด โทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดจำนวนมาก จากการขยายผลทราบว่า นายสมชายร่วมกับ นายทุนชาวไต้หวัน จัดหาคนไทยเข้าไปตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ประเทศตุรกีและเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการตรวจสอบประวัติพบนายสมชายลักลอบเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยกว่า 20 ปีแล้ว แถมยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาชาวไทยไปทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจัดหาบัญชี สำหรับโอนเงินจากคนที่ถูกหลอก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ตามแผนประทุษกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีลักษณะรูปแบบเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจากการแกะรอยสืบสวนสอบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆทราบว่ามีชาวไทยเป็นผู้ที่เปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 41 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้งหมด โดยติดตามจับกุมได้แล้ว 28 ราย และยังหลบหนีอีก 13 ราย สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีคนละ 1,500 บาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาในความผิดฐาน มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป