ดีเอสไอ อุทยาน กรมป่าไม้ ลงพื้นที่เก็บข้อมูล วัดเมตตาธรรม เพื่อตรวจสอบที่มาไม้แปรรูป ไม้หวงห้าม ราคาเกือบพันล้าน เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ...



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.60 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หน.ฉก.พญาเสือ เปิดเผยว่า คณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย ศปก.4 กอ.รมน. ฉก.ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า พร้อมด้วยหน่วยพยัคฆ์ไพร ชุดพญาเสือ ร้อย.รส. บก.ควบคุม พล.ร.9 ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ฯลฯ ได้เข้าตรวจสอบ วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี ตามที่ได้รับร้องเรียนจากผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนาม ว่าวัดดังกล่าวมีการครอบครองไม้หวงห้ามที่ผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก คณะเจ้าหน้าที่จึงได้อาศัยอำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557 สั่ง ณ วันที่ 14 มิถุนายน พุทธศักราช 2557 เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และคำสั่งที่ 66/2557 สั่ง ณ วันที่ 17 มิถุนายน พุทธศักราช 2557 เรื่อง เพิ่มเติมหน่วยงานสำหรับการปราบปราม หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และนโยบายการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราว ในสภาวการณ์ปัจจุบัน และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2559 ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ข้อ 3(4) โดยได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี บริเวณพิกัดที่ 47 P 542340 E 1546252 N (WGS 84) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี

...

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงบริเวณวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ได้พบกับ พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ชื่อเดิม นายชรินทร์ นิโรจน์ศิลปะชัย ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 99/10 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้แจ้งเหตุในการเข้าดำเนินการตรวจสอบให้พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง รับทราบ ซึ่งพระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ได้รับทราบ และยินยอมให้การแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ตลอดเป็นผู้นำตรวจในการตรวจสอบพื้นที่ในบริเวณวัด จากการตรวจสอบปรากฏผลดังนี้


1. ในพื้นที่บริเวณวัดดังกล่าว พบโกดังเก็บไม้จำนวนมาก โดยมีทั้งในลักษณะไม้ท่อนและไม้แปรรูปเป็นจำนวนมาก พื้นที่การทำประโยชน์ของวัดมีเนื้อที่ 242 ไร่ โดยมีการปลูกสร้างอาคาร กุฏิ บ้านพักคนงาน และโรงเก็บไม้และโรงเก็บของการกระจายอยู่ทั่ว โดย พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ได้ให้การแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่า ไม้ต่างๆ ที่เห็น ส่วนใหญ่ได้ซื้อโดยการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีผู้ศรัทธานำมามอบให้ ซึ่งทางวัดก็รับไว้ ซึ่งไม้ที่ทางวัดครอบครองอยู่มีเอกสารในการได้มาอย่างถูกต้อง ซึ่ง พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ได้มอบเอกสารการได้มาในการครอบครองไม้ แก่คณะเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลายฉบับ ขณะตรวจมาถึงโกดังที่ 6 ปรากฏผล ดังนี้ ​1. ตรวจพบไม้กระยาเลย จำนวน 4 ท่อน ​



2. ตรวจพบเครื่องตัดไม้ ยี่ห้อ WINNER ใบเลื่อย 15 นิ้ว พร้อมมอเตอร์ 1 ตัว ​3. เลื่อยสายพาน สูง 120 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร อยู่ในบริเวณ พิกัดที่ 47P 0541984 E 1546297 N ของวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ 4. เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อสติล 1 เครื่อง 5. เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ดัดแปลง (หินเจีย) 1 เครื่อง 4. ไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 4 แผ่น อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ อยู่ในบริเวณ พิกัดที่ 47P0542305 E1546174 N ของวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ

 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามกฎหมายดังนี้ 2.1 พระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 48, 69 ข้อหา แปรรูปไม้ ภายในเขตควบคุมแปรรูปไม้ ครอบครองไม้แปรรูป มีไว้ในครอบครอง ซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย และพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.3 พ.ร.บ.เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4, 17 มีไว้ในครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์



นายชัยวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า ​คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ตามที่ได้รับแจ้งที่ไม่ประสงค์จะออกนาม แจ้งว่าที่วัดเมตตาโพธิญาณมีไม้แปรรูปและไม้ท่อนเป็นจำนวนมาก ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง ได้พบกับพระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง จึงแจ้งความประสงค์ให้ทราบซึ่งพระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ยินดีและนำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วยความเต็มใจ ขณะตรวจมาถึง โรงโกดังที่ 6 ตรวจพบไม้ท่อนขนาดต่างๆ ผ่านการตัดทอนวางกองอยู่กับพื้นในโกดัง ใกล้กันมีแท่นเครื่องเลื่อยมีขี้เลื่อยลักษณะใหม่ คณะเจ้าหน้าที่จึงสอบถาม พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ไม้ท่อนที่วางกองอยู่นี้ได้มาอย่างไร มีหลักฐานเอกสารหรือไม่ พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ตอบว่าตนเองได้รับบริจาคไม้เหล่านี้มาจากชาวบ้านข้างทางถนนไปอำเภอไทรโยค เพื่อได้นำมาแกะสลักเป็นวัตถุมงคลต่างๆ แจกจ่ายให้กับผู้มีจิตศรัทธา ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ ส่วนไม้แปรรูปที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้รับบริจาคมานาน 6-7 ปี มาแล้วจำไม่ได้แล้วใครให้มา ไม่มีเอกสารใดๆ และไม่ทราบว่าเป็นไม้อะไร สำหรับเลื่อยโซ่ยนต์มีไว้สำหรับตัดทอนไม้ที่มีอยู่ในวัดและหาเอกสารการอนุญาตไม่พบ


...

คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน/แผ่น ไม่พบรูปรอยดวงตราใดๆ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด อันเป็นการแสดงได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตรา ต.และตรา ย.ที่จะตีประทับบนหน้าตัดของไม้ของกลางผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษจะนำมาตีประทับภายหลัง เพื่อแสดงเป็นการตรวจยึด และได้แจ้งให้พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง ทราบว่าจะต้องถูกจับ พระชรินทร์ ฉายา เย็นหมง รับทราบและรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาแล้ว




ต่อมา เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ กรมอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ และ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมดำเนินการ ตรวจสอบเพิ่มเติม เก็บหลักฐาน พร้อมทั้งทำแผนผังสิ่งปลูกสร้างรวมถึงตำแหน่ง จำนวนกองไม้ในวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ โดยแยกชุดกำลัง จนท. แบ่งงานตรวจค้น นับไม้ที่สงสัย เพื่อกำหนดตำแหน่งเพื่อให้เจ้าอาวาส แสดงหลักฐานตามตำแหน่งที่กำหนด ถ้าไม่สามารถแสดงได้ คณะเจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินการตามกฎหมายป่าไม้ต่อไป เพื่อจัดทำแผนผัง แสดงสิ่งปลูกสร้างและแสดงตำแหน่งของไม้พร้อมจำนวนทั้งหมด เป็น 1. ไม้ท่อน จำนวน 190 ท่อน ปริมาตร 1,275 ลบ.ม. 2. ไม้แผ่นรวมจำนวน 3,500 แผ่น ประมาณ 3,000 ลบ.ม.รวม ปริมาตรที่ตรวจยึด ประมาณ 4,200 ลบ.ม. 3. ขอสำเนาใบกำกับภาษี ใบกำกับสินค้า และเอกสารที่สามารถแสดงยืนยัน ว่าได้ไม้มาถูกต้อง ทุกฉบับ ให้กับเจ้าหน้าที่ 4. คดีบันทึกตรวจยึด บันทึกอายัด และบัญชีไม้ของกลาง พร้อมทั้งภาพประกอบ ในพื้นที่บริเวณวัดฯ จะส่งให้เป็นคดีพิเศษ และส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป และ ส่ง จนท. ตรวจเช็กการใช้ประโยชน์พื้นที่ ว่าเป็นไปตามที่ทางวัดได้ขอใช้ประโยชน์หรือไม่ ถ้าไม่ตรงหรือบุกรุกเพิ่มออกไป คณะเจ้าหน้าที่ จะต้องดำเนินคดี ข้อหายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ โดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป ทั้งนี้ยังได้ประสานตรวจสอบที่ดิน ที่ซ้อนทับกับพื้นที่ ส.ป.ก. ว่าส่วนที่จอ ส.ป.ก. ไปนั้น เป็นที่ดินของใคร ส.ป.ก.ให้กับใคร ผู้ถือครองเป็นใคร ตรงตามวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก.อีกหรือไม่



...

โดยคณะเจ้าหน้าที่ พิจารณาร่วมกัน เห็นว่าให้ทางวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ หรือ เจ้าอาวาส นำเอกสาร มาแสดง ตามผังแปลงตรวจยึด ภายใน 30 วัน ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่จะกำหนดวันเข้าตรวจสอบอีกครั้งต่อไป.