ตำรวจสระแก้ว ไล่ล่าแก๊งขนแรงงานเถื่อนชาวกัมพูชามีพิรุธขับหนีด่านตรวจ จนท.ขับรถไล่ตามกว่า 50 กิโลเมตร จึงยอมจำนน ได้ผู้ต้องหาเป็นคนไทย 2 คน บอกได้ค่าจ้างครั้งละ 1 พันบาท  และแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 9 คน 

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 9 พ.ย. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เหล็กดี พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.ทับใหม่ ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว รับแจ้งจากสายสืบฯ ว่า มีขบวนการขนแรงงานเถื่อนชาวกัมพูชา จากบ้านโอบายเจือน ประเทศกัมพูชา ข้ามมาฝั่งไทยมาขึ้นรถที่ฝั่งชายแดนไทย อยู่ตรงข้ามที่บริเวณท้ายบ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จึงทำการดักซุ่มตามจุดต่างๆ จึงแจ้งให้จุดตรวจ ที่ อ.โคกสูง ทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว

กระทั่งตามเวลาดังกล่าว พบ รถปาเจโร สีบรอนด์ ตามด้วยรถเก๋งสีขาว นั่งอัดกันแน่นเต็มคันรถ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นปรากฏว่า คนขับรถทั้งสองคัน ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น และได้ขับหนีออกมาอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งจุดสกัดต่างๆ และทำการไล่ล่ามาอย่างติดๆ กระทั่งมาถึงเขต สภ.ทับใหม่ อำเภอวัฒนานคร จึงสามารถสกัดจับได้ และนำผู้ต้องหา และรถทั้งสองคันไปที่ สภ.ทับใหม่ เพื่อทำการสอบสวนต่อไป

...

จากการสอบสวนและตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า คนขับรถเก๋ง สีขาว ยี่ห้อโตโยตา ติดทะเบียน กต 6396 ปทุมธานี ชื่อ นายสมพงษ์ แสนองอาจ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 /362 หมู่ 1 ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 19 ต.นางแดด อ. หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ภายในรถเก๋ง มีชาวกัมพูชานั่งมาด้วย จำนวน 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน และเด็กชาย 1 คน ส่วนชายทั้ง 4 คน มี นายแนด อายุ 37 ปี อยู่จังหวัดบันเตียเมียนเจย นาย นา อายุ 20 ปี อยู่จังหวัดบันเตียเมียนเจย นายลัด อายุ 20 ปี อยู่จังหวัดดอมโบงขมุม และนายเร็น อายุ 24 ปี อยู่จังหวัดเสียมเรียบ ส่วนหญิง 4 คน มี นางออน อายุ 26 ปี อยู่บันเตียเมียนเจย นางเซ็น ดาวี อายุ 31 ปี อยู่จังหวัดบันเตียเมียนเจย นางรุน อายุ 30 ปี อยู่จังหวัดเสียมเรียบ และนางสรี รวด อายุ 30 ปี อยู่จังหวัดดอมโบงขมุม และเด็กชาย ปืด อายุ 10 ปี อยู่จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยทั้ง 9 คน ไม่มีเอกสารการเข้าเมืองแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบทะเบียนรถเก๋ง พบว่า เป็นทะเบียนปลอม ที่แผ่นป้ายทะเบียน ใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบไว้ ส่วนทะเบียนจริงเก็บไว้ในรถ เป็นทะเบียนหมายเลข กม 5753 ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา นายสมพงษ์ นำพาบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนชาวกัมพูชา แจ้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ส่วนรถมิตซุบิชิ ปาเจโร สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ขอ 2940 ชลบุรี ที่ขับตามกันมา มีนางขวัญดาว อินทรีย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 9 ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำพู เป็นคนขับ จากกาตรวจค้นภายในรถ พบเป็นสัมภาระใส่ถุง และกระเป๋าเดินทางเต็มคันรถ แต่ไม่พบบุคคลอื่นอาศัยมาด้วยแต่อย่างใด จากการตรวจค้นภายในรถยังมีของใช้อื่นๆ จำพวกเสื้อผ้า และบุหรี่ยี่ห้อเป็นภาษาเขมรจำนวนมาก มีทั้งที่เป็นคอตตอนและแกะออกมาเป็นซอง มีหลากหลายยี่ห้อ และยังพบเอกสารที่เป็นภาษาเขมร ของชาวกัมพูชาใส่ซองไว้อีกหลายแผ่น แต่นางขวัญดาว ให้การปฏิเสธว่า รับจ้างขนสัมภาระให้ผู้ว่าจ้างเท่านั้น โดยไม่ทราบว่าเป็นของใคร

ทางด้านนายสมพงษ์ ยอมรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนแรงงาชาวกัมพูชาจริง โดยไปรับที่บริเวณชายแดน ที่อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว ได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท ไปส่งแรงงานที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ก็ถูกจับ

ส่วนนางเซ็น ดาวี แรงงานชาวกัมพูชา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ขออนุญาตนายจ้างคนไทยกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา โดยเอกสารจำพวกพาสปอร์ตและเอกสารอื่น นายจ้างคนไทยเก็บไว้และเมื่อกลับเข้ามาทำงานใหม่ คิดว่าจะไม่ถูกจับก็ไม่มีเอกสารอะไรติดตัวมาเลย.